THE BEST ADDICTs : TOP 10 แข้งธรรมดากลายเป็นสตาร์ภายใต้น้ำมือคล็อปป์ #2


6. ซาดิโอ มาเน่
ซาดิโอ มาเน่ มีค่าตัวการดขึ้นถึง 3 เท่าภายในช่วงระยะเวลาเพียงแค่สองปีและก็คนทีตกลงใจซื้อตัวเขาจาก เซาท์หมูแฮมป์ตัน มาอยู่กับ หงส์แดง ก็คือ พบร์เก้น คล็อปป์ นั่นเอง

ค่าตอบแทน 34 ล้านปอนด์ของ มาเน่ อาจจะทำให้หลายท่านจำต้องเลิกขนคิ้วสงสัย แม้ยังจำกันได้ในตอนซัมเมอร์ก่อนหน้าที่ผ่านมามีการเย้าแหย่กันว่า หงส์แดง ยอมชำระเงินมากมายเพื่อซื้อปีกที่ยังไม่พิสูจน์ตนเองในเวทีระดับที่ค่อนข้างสูงแทนที่จะซื้อ เฮนริค มคิตาร์ยาน นักฟุตบอลเหมาะสมที่สุดของดอร์ทมุนด์ซึ่งเป็นอดีตผู้ร่วมทีมของ คล็อปป์ มาร่วมทีมซึ่ง "มิคกี้" น่าจะเป็นนักฟุตบอลที่ตอบปัญหากว่าปีกชาวเซเนกัลหลายเท่านัก

"ผมถูกใจนักฟุตบอลอย่างนี้ล่ะ ผมไม่ต้องการที่จะอยากบอกอะไรมากยิ่งกว่านี้ พวกเราเข้าใจกันอยู่ถึงสมรรถนะฝีเท้าที่เขามี รวมทั้งทราบเพราะว่าสไตล์การเล่นของเขาประจวบเหมาะกับกลุ่มของพวกเราแค่ไหนต่างหากที่เป็นเหตุผลที่ผมซื้อเขามาร่วมทีม" นี่ไม่ใช่อาการปากเก่งรวมทั้งมั่นอกมั่นใจจนถึงเกินความสามารถของ คล็อปป์ เมื่อผลงานของ มาเน่ ในตอนออกตัว10 เกมแรกของฤดูได้บ่งชัดออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่คล็อปป์บอกนั้นถูกไม่ผิดบ้าแม้กระทั้งคำเดียว

รวมทั้งในช่วงเวลานี้ มาเน่ก็ราวกับจะพิสูจน์ตนเองได้แล้วว่าเขาเหมาะสมที่สุดแค่ไหน จากกระบวนการทำไป 20 ประตูจากทุกรายการ พร้อมกับพาทีมทะลุเข้าไปถึงรอบชิงแชมป์ในแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูก่อนได้อีกด้วย


7. มาริโอ เกิตเซ่

การถือจับนักฟุตบอลเยาวชนเอามาปั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ คล็อปป์ ทำไม่ได้ แล้วก็มาริโอ เกิตเซ่ เป็นแบบอย่างที่มองเห็นได้อย่างแจ่มแจ้งสูงที่สุด

คล็อปป์ เริ่มมองเห็นแววของ เกิตเซ่ ตั้งแต่ในตอนที่ดาวเตะกลุ่มชาติเยอรมันยังแก่เพียงแค่ 17 ปีเเละเล่นในกลุ่มสำรองของ ดอร์ทมุนด์ ก่อนที่จะเริ่มเปิดโอกาสลงสู่สนามเกมแรกในลีกในเกมที่เจอกับ ไมนซ์ 05 ในวันที่21 เดือนพฤศจิกายน ปี 2009 เกิตเซ่ ถูกแปลงลงมาแทน ยาระอุบ บลาสซีคอฟสกี้ ในนาทีที่ 88 รวมทั้งภายหลังจากหมดตอนพักเบรกหน้าหนาวในปีนั้น คล็อปป์ ก็จัดแจงส่งเสริม เกิตเซ่ ขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่อย่างสุดกำลัง

ถึงแม้ในช่วงฤดูกาลนั้น เกิตเซ่ จะได้ลงในสนามเพียงแต่ 5 เกมแค่นั้นแต่ว่าโน่นก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เพราะเหตุว่าของแท้มันเป็นปีถัดมา ในช่วงฤดูกาล 2010-11 เกิตเซ่ ผันตนเองเป็นเป็นนักฟุตบอลคนสำคัญของกลุ่มเสือเหลืองได้ในทันที เขาประสานสวยเกมรุกร่วมกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ , ลูคัส บาริออส รวมทั้ง เคยชินจิ ค้างกาวะ ได้อย่างพอดี ซึ่งผลลัพท์ก็คือดอร์ทมุนด์ เปลี่ยนเป็นแชมป์บุนเดสลีก้าในช่วงฤดูกาลนั้นอย่างมากใหญ่และก็ เกิตเซ่ เองก็พ่วงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งดีเลิศที่ปีไปครอบครองอีกด้วย


มันยังไม่ใช่แค่นี้ในช่วงฤดูกาล 2011-12 เกิตเซ่ แล้วก็ผองสหายเสือเหลืองภายใต้การควบคุมกลุ่มของ คล็อปป์ ก็สืบต่อความโหฬารด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกทั้งบอลลีกแล้วก็บอลถ้วยในประเทศไปครอบครอง ซึ่งเกิตเซ่เองก็บวกรางวัล โกลเด้น บอย หรือนักฟุตบอลดาวรุ่งดีเลิศของโลกไปครอบครองในปี 2012 ได้เสร็จ หากแม้ในถิ่น ซิกข์นัล อิดูน่า พาร์ค เขาจะเป็นราวกับพระราชโอรสของกลุ่ม แต่ทว่าที่สุดเเล้ว เกิตเซ่ ก็เลือกย้ายไปอยู่กลุ่มที่ใหญ่มากยิ่งกว่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงฤดูกาล 2013-14 แล้วก็หัวข้อนั้นก็ทำให้ คล็อปป์ เองปวดใจไม่น้อยที่มองเห็นนักฟุตบอลที่เขารักและก็ปั้นมาพร้อมกับมือจะต้องจากกลุ่มไปอีกหนึ่งคน

"เหตุผลที่เกิตเซ่ย้ายมันก็เป็นเนื่องจากเขาเป็นวัตถุประสงค์ของ กวาร์ดิโอล่า นั่นแหละ ซึ่งถ้าเกิดจะโทษใครสักคนสำหรับหัวข้อนี้ก็ควรเป็นผมเองนี่แหละที่ไม่ถูก ผมทำให้ตนเองเตี้ยลงกว่านี้ 15 ซม.มิได้ ผมบอกประเทศสเปนมิได้ เขา(เกิตเซ่)อยากได้ร่วมงานกับที่ปรึกษาที่พิเศษอย่าง เป็ปซึ่งผมเองก็ไม่สามารถที่จะทำทีมสไตล์ว่ากล่าวกี้ ตาก้า ได้เสมือนอย่างเขา"นี่เป็นสิ่งที่ คล็อปป์ กล่าวถึงการย้ายกลุ่มของลูกศิษย์รักของเขาไว้อย่างน่าสงสาร

ถึงแม้ที่สุดเเล้ว เกิตเซ่ บางทีก็อาจจะมิได้มีขณะหนดีนักกับ บาเยิร์น มิวนิคและก็เขาจำเป็นต้องซานซมกลับมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ อีกทีในทุกวันนี้ แม้กระนั้นคราวหนึ่งเขาก็เคยเป็นนักฟุตบอลเกมรุกระดับอัจฉริยะที่หาตัวจับยากภายใต้การควบคุมกลุ่มของ คล็อปป์ นั่นเอง

8. ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง
เป็นอีกทีที่ คล็อปป์ ใช้เวทย์มนต์ปลุกของนักฟุตบอลโนเนมสู่นักฟุตบอลระดับท็อปซึ่งก็คือศูนย์หน้าชาวกาบองอปิ้ง ปิเครื่องปรับอากาศ-เอเมริก โอบาเมยอง

ทางชีวิตของโอบาเมยอง เริ่มด้วยการเป็นเด็กฝึกฝนในกลุ่มเยาวชนของเอซี มิลาน ก่อนภูติผีปีศาจเเดงดำจะไม่สนใจอะไรเขานักเเละขายเขาให้กับแซงต์ เอเตียง ในราคาสุดถูกเพียงแค่ 3 ล้านยูโรในม.ค.ปี 2011 ก่อนที่จะโอบาเมยอง จะแสดงปฎิกิริยาตอบกลับราวกับเสือร้ายที่คืนสู่ป่า เพราะว่าเวลาเพียงแค่ 2 ฤดูครึ่ง เจ้าตัวลงสู่สนามไปทั้งหมดทั้งปวง 96 นัดหมายรวมทั้งหวดไปอีก 41 ประตู

เมื่อฟอร์มแรงขนาดนี้มีหรือนักปั้นมือทองคำอย่าง คล็อปป์ จะทานทนไหว"เจเค" เข้าพบรือกับกระดานบริหารของชมรมเเละเบิกงบประมาณในคลังเก็บของราว 15 ล้านยูโรเพื่อซื้อตัว โอบาเมยัง มาร่วมทีมในตอนซัมเมอร์ปี2013-14 ซึ่งเจ้าตัวก็เครื่องจัดตั้งแม้กระนั้นฤดูแรกด้วยการซัดไป 16 ประตูจากการลงสู่สนาม 48 นัดหมาย

แต่ทว่าในช่วงฤดูกาลถัดมาเป็นการแจ้งกำเนิดอย่างสุดกำลังของเขา โอบาเมยัง โดน คล็อปป์ ขยับจากตำแหน่งปีกมาเล่นเป็นกองหน้าเพื่อแทนที่ของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนเริ่มฤดู 2014-15รวมทั้งในตอนแรกนั้นหลายข้างก็เป็นห่วงว่า คล็อปป์ จะทำยังไงถัดไปกับชีวิตที่ไม่มีดาวยิงเบอร์ 1 ของกลุ่มที่ปฏิบัติภารกิจได้อย่างไร้ที่ตำหนิมาตลอดเวลา 4 ปีที่ล่วงเลยไป

คำตอบก็คือ โอบาเมยองก้าวขึ้นมาเป็นยอมผลิตสกอร์แทนเลวานดอฟสกี้ให้กับเสือเหลืองได้อย่างไร้รอยต่อ ดาวยิงชาวกาบองยิงในทุกรายการไป 25ประตูรวมทั้งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของกลุ่มในช่วงฤดูกาล

แม้กระนั้นด้วยแนวทางการทำกลุ่มได้เพียงแค่ชั้น 7 ในในที่สุด คล็อปป์ ก็ประกาศลาออกจากกลุ่มภายหลังจากคุมกลุ่มมาตั้งแต่ปี 2008 หากแม้"เจเค" จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ในปีในที่สุดกับ ดอร์ทมุนด์แม้กระนั้นอย่างต่ำเขาก็ทิ้งเพชรเม็ดสวยอย่าง โอบาเมยอง เป็นมรดกที่ล้ำค่าในการทำทีมของผู้จัดการทีมคนถัดไป


9. มาร์โก รอยส์
เพชรอยู่ตรงไหนก็เป็นเพชรและก็นี่เป็นเหตุลที่ พบร์เก้น คล็อปป์ ยอมทุ่มเงินซื้อ มาร์โก รอยส์ กลับสู่รังเสือเหลืองอีกรอบ

รอยส์ นั้นเป็นลูกหม้อของ ดอร์ทมุนด์ อย่างแท้จริง เขากำเนิดในเมือง ดอร์ทมุนด์ และก็แน่ๆสมาพันธ์แรกที่เขาได้ร่วมในระดับเยาวชนก็คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั่นเอง

หากว่าเขาจะเป็นเชื้อสายของกลุ่มเสือเหลืองโดยตรงแต่การแย่งตำแหน่งตัวจริงแล้วก็ก้าวขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่แบบเต็มกำลังก็ไม่ได้ง่าย เขาไม่เคยได้รับช่องทางมานักในถิ่น สิกข์นัล เอมองน่า พาร์ค กระทั่งใยปีฤดู 2006-07 ดอร์ทมุนด์ ก็ตกลงใจไม่ต่อสัญญาเข้ารวมทั้งปลดปล่อยให้เขาไปอยู่ อาห์เลน กลุ่มในระดับนอกลีกที่คว้าตัวเขาไปร่วมกลุ่มแบบฟรี


รอยส์ นั้นเริ่มเล่นให้กับกลุ่มชุดสำรองของ อาห์เล่น ก่อนจวบจนกระทั่งในปี2007-08 เขาจะได้ช่องพิสูจน์ตนเองกับกลุ่มชุดใหญ่ ก่อนที่จะ รอยส์ จะพาอาห์เล่น เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกา 2 ได้เสร็จในช่วงฤดูกาล 2007-08 ด้วยการลงสาม 16 นัดหมายและก็ยิงไป 1 ประตู

บนเวทีที่ขั้นสูงขึ้น รอยส์ ก็ขยับมาตรฐานตนเองให้สูงตาม ในช่วงฤดูกาล2008-09 รอยส์ เปลี่ยนเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ อาห์เล่น ด้วยการลงในสนามทั้งสิ้น 26 นัดหมายและก็ยิงไป 4 ประตู แต่ว่าสิ่งที่จำเป็นกว่านั้นเป็นเขาทำให้สังกัดเดิมที่เป็นตัวเต็งตกชั้นสามารถคว้าชั้นที่ 10 ของ ลีก้า 2ได้อย่างเหนือความหวัง เเละด้วยผลงานอันเด่นนั้นเองก็ถึงเวลาที่เขาจะได้ลิ้มชิมรสเวทีสูงสุดของประเทศ โน่นเป็น บุนเดสลีก้า แล้วก็เป็น โบรุสเซียมึนได้แก่ กลัดบัค ไปร่วมกลุ่มด้วยข้อตกลง 4 ปีในวันที่ 28 เดือนสิงหาคมปี2009

คุณมีความคิดว่าจะกำเนิดอะไรสังกัดครั้งแรกในบุนเดสลีกาของเขา ? มันจะบางทีก็อาจจะมองสวยงามเกินจริง แต่ว่า รอยส์ จัดแจงทำประตูแรกของเขาได้ในเกมที่เจอกับ ไมนซ์ 05 เพียงแค่นั้นบางครั้งอาจจะยังปกติไป รอยส์ทำประตูในเกมนั้นด้วยการฉุดบอลเลี้ยงลำพังเป็นระยะทางร่วม 50 หลารวมทั้งซัดประตูให้กับกลุ่มราชสีห์ชายหนุ่มจนกระทั่งทำให้สนามเกือบจะแตกในวันนั้น เขารักษาผลงานให้คงเดิมและก็ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆกระทั่งตอนท้ายเเล้วเขาแปลงเป็น ดาวซัลโวของกลุ่มในช่วงฤดูกาล 2011-12 ด้วยการซัดไปถึง 21ประตูจากการลงไปในสนาม 37 เกม

เมื่อผลงานมันสะดุดตาเห็นกระจ่างขนาดนี้ก็ถึงเวลาเเล้วที่เขาจะได้พิสูจน์ตนเองอีกรอบกับกลุ่มที่ใหญ่ และก็กลุ่มนั้นเป็น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์กลุ่มรักเก่าที่ถิ่นฐานบ้านช่องของที่ยอมทุ่มเงินราว 17 ล้านยูโร ซื้อตัวเขามาร่วมทีมในช่วงฤดูกาลมกราคมปี 2012 แล้วก็ผู้ที่คิดพินิจพิจารณามาอย่างยอดเยี่ยมว่ากองกลางเชิงรุกคนนี้แหละเป็นนักแสดงที่ใช่สำหรับดอร์ทมุนด์ก็ไม่ใช่คนไหน เขาเป็น พบร์เก้น คล็อปป์ นั่นเอง

ภายใต้การปลุกเสกมนต์ของ คล็อปป์ รอยส์ เริ่มเปลี่ยนเป็นที่รู้จักแล้วก็เป็นไอค่อนของแวดวงบอลเยอรมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงฤดูกาลแรกรอยส์ ประสานงานกับ เลวานดอฟสกี้ รวมทั้ง เกิตเซ่ แล้วก็ทั้งยัง 3 คนยิงรวมกันทั้งยังฤดูไปกว่า 71 ประตู ถึงแม้ในที่สุดแล้ว ดอร์ทมุนด์ จะเปลี่ยนเป็นทริปเปิ้ลรองแชมป์แม้กระนั้นสามผสานภายใต้การสั่งของ คล็อปป์ ก็ได้รับเสียงสรรเสริญเยินยออย่างมากใหญ่ไม่แพ้กลุ่มที่ได้แชมป์เลยแม้แต่น้อย

การเวลาผ่านไป รอยส์ จำเป็นต้องเสียคู่ซี้ของเขาไปเรื่อยมันเริ่มด้วย เลวานดอฟสกี้ ต่อจากนั้นก็ เกิตเซ่ ในช่วงเวลานั้นหลายข้างรู้สึกว่า รอยส์ เองน่าจะต้องตามเพื่อนพ้องๆของเขาไปติดๆ... แต่ว่าก็ไม่ เขายังคงอยู่กับคล็อปป์แล้วก็ดอร์ทมุนด์ถัดไปแม้ว่าจะโดดเดี่ยวแต่ว่าฝีเท้ารวมทั้งฟอร์มการเล่นของเขาก็แทบจะไม่ตกลงเลย ในที่สุดเขาก็ได้คู้หูใหม่อย่าง โอบาเมยอง ที่เล่นด้วยกันได้อย่างเข้ากัน ที่สำคัญเป็นตั้งแต่แมื่ออยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ในปี 2012เป็นต้นมาเขาไม่เคยทำประตูได้ต่ำลงมากยิ่งกว่าจำนวน 2 หลักเลยแม้กระทั้งครั้งเดียว

เหมือนกันกับกรณี โอบาเมยอง ถึงแม้สุดท้ายแล้ว คล็อปป์จึงควรโบกไม้โบกมือลาถิ่นซิกข์นัล เอมองน่า พาร์ค แม้กระนั้นรอยส์ยังคงเป็นเพชรแท้ที่คล็อปป์เจียระไนกระทั่งเจิดแจ่มแจ้งบนโลกลูกหนังทุกๆวันนี้


10. โมฮาเหม็ด ซาลาห์

พบร์เก้น คล็อปป์ ยังโชว์ความเป็นผู้ชายตาเหยี่ยวอีกทีสำหรับในการคว้าตัวโมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาจาก โรม่า ด้วยค่าจ้าง 40 ล้านปอนด์ ซึ่งพวกเราควรจำเป็นต้องสารภาพในจุดนี้ว่าตัวรุกชาวอียิปต์เป็นตัวต่อที่หงส์เเดงตามหาอย่างแท้จริง

ตอนที่เล่นกับ โรม่า นั้น ซาลาห์ บางครั้งอาจจะถูกสรรเสริญว่าเป็นนักฟุตบอลหนเหมาะสมที่สุดในเซเรีย อา อยู่แล้ว แต่กับหงส์แดง นั้นคนละเรื่อง ภายใต้ระบบการเล่นของ คล็อปป์ นั้น ซาลาห์ ได้ชี้ให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านอีกทั้งการครอบครองบอล,การผลิตจังหวะ,การแอสซิสต์แล้วก็การจบสกอร์ที่สุขุมสุดๆจนกระทั่งบัดนี้ ซาลาห์ ทำประตูทำลายสถิติอะไรต่อมิอะไรมาก

"บอลมันเกี่ยวกับแนวทางการทำในสิ่งที่ถูกในตอนที่สมควร ผมถูกใจความต้องการประตูของโม คุณคงจะมองเห็นมันแล้ว" คล็อปป์ เอ่ยถึงสิ่งที่ซาลาห์ แสดงออกมาภายใต้การดูแลของเขา ก่อนที่จะจบท้ายด้วยการชื่นชอบความยืดหยุ่นของนักฟุตบอลในเกมรุกซึ่งสามารถสลับเปลี่ยนตำแหน่งกันล่าสกอร์กระทั่งทำให้ทุกคนคาดคั้นศักยาเพียงพออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม

"ความยืดหยุ่นของนักฟุตบอลทุกคนที่อยู่รายล้อม คุณไม่อาจจะมีนักเตะผู้เดียวที่ยืดหยุ่นได้ ถ้าเกิดคุณมองเห็นกรรมวิธีเปลี่ยนตำแหน่งของพวกเรา โรกางร์โต้(ฟีร์ไม่โน)จะเข้ามารองโม ในตอนที่ซาดิโอ(มาเน)ก็ทำเหมือนกันมันสำคัญมาก ถ้าหากคุณไม่ทำอย่างนั้น คุณจะแปลงเป็นปัญหา เพราะเหตุว่าคุณทำประตูมิได้จากทุกตำแหน่ง" คล็อปป์ ตบท้าย
สามารถติดตามข่าวสารอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่ LIVESCORE บอลสด