10 แข้งไทยที่อาจลืมไปว่าเคยเล่นทีมชุดใหญ่บียู
LIVESCORE บอลสด : กาลเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างก็ต้องมีความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับพวกเขาเหล่านี้...
กาลครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกลุ่มยักษ์ใหญ่ที่ไทยลีกอย่าง กางงค็อก ยูไนเต็ด แม้กระนั้นผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางครั้งอาจจะลืมไปแล้ว… จะด้วยสาเหตุใดๆก็ตามที วันนี้พวกเราจะพาคุณย้อนไปมองกันว่ามีคนไหนบ้างที่เกือบลืมไปแล้วว่าเคยเล่นให้ “ลำแข้งเทวดา"
พลวุฒิ ขวาเสนา
ย้อนกลับไปในปี 2008 พลวุฒิ ขวาเสนา หรือ พลวุฒิ ดอนจุ้ย เคยบรรลุผลสำเร็จอย่างมากเมื่อเป็นเยี่ยมในขุนศึกชุดได้แชมป์ไทยลีกในปีดังที่กล่าวมาแล้วกับ การไฟฟ้าฯ อดีตกาลมหาอำนาจลูกหนังประเทศไทยในสมัยนั้น
ข้างหลังได้แชมป์กับ การไฟฟ้าฯ เขาถูก กางงค็อก ยูไนเต็ด ที่เวลานั้นเล่นอยู่ในดิวิชั่น 1 คว้าตัวไปร่วมกองทัพ พลวุฒิ เป็นนักฟุตบอลที่ถูกชื่นชมว่ามีความฟิตเกินร้อย แล้วก็ขยันอยู่เป็นประจำ เขาเป็นคนสำคัญที่รอทำลายเกมคู่แข่งขันกึ่งกลางสนามได้บ่อยมากทั้งยังวิ่งไม่มีหมดโน่นทำให้เขาเปลี่ยนเป็นขุมกำลังหลักของกลุ่มไปโดยปริยาย
ระยะเวลาต่อไปเขายังคงค้าลำแข้งอยู่ในเมืองหลวง โดยย้ายจาก "ลำแข้งเทวดา" ไปอยู่กับ กรุงเทพมหานคร เอฟซี แม้กระนั้นก็ห่างหายจากการบรรลุเป้าหมายไปพอควร ก่อนที่จะลงไปช่วย จังหวัดอุดรธานี เอฟซี สร้างประวัติศาสตร์เลื่อนชั้นจากไทยลีก 3 ขึ้นมาเล่น M-150 แชมเปี้ยนชิพได้เสร็จ ในตอนที่ฤดู 2018 เขาย้ายกลับมาร่วมงานกับ ผู้ฝึกสอนเตี้ย สะสมเจอยอดเยี่ยม อีกทีในกลุ่ม เครื่องปรับอากาศฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี
ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง
นี่เป็นนักฟุตบอลลูกหม้อของ "ลำแข้งเทวดา" ข้างหลังอยู่กับสมาพันธ์นี้มาตั้งแต่สมัยที่ยังคงใช้ชื่อมหาวิทยาลัยกรุงเทวดา เมื่อปี 2007
ขั้นแรกกับการเล่นให้ กางงค็อก ปัณณ์ชนิดดงษ์ ได้โอกาสลงในสนามค่อนข้างจะหลายครั้ง แต่ว่าข้างหลังกลุ่มเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดในปี 2013 เขาได้ลงเล่นลดลงเป็นลำดับ โดยปี 2015 ซึ่งเป็นฤดูท้ายที่สุดกับกลุ่มที่ปลุกปั้นเขามา ปัณณ์จำพวกดงษ์ ได้ลงในสนามให้กลุ่มเพียงแค่ 3 นัดหมายเพียงแค่นั้นก่อนที่จะล่ำลา "หน้าแข้งเทวดา" แล้วก็ย้ายไปอยู่กับซุปเปอร์พาวเวอร์ในช่วงฤดูกาล 2016
ข้างหลังย้ายเข้ารังซุปเปอร์พาวเวอร์ เขาเปลี่ยนเป็นตัวหลักของกลุ่มโดยทันที ก่อนย้ายไปทำงานกราบซ้ายให้ การท่าเรือ เอฟซี จนกระทั่งเดี๋ยวนี้
คมกริช คำโสกเชือก
เขาเป็นนักฟุตบอลอีกรายที่อยู่กับ กางงค็อก ในสมัยแรกๆ
คมกริช เป็นพวกกลุ่ม "หน้าแข้งเทวดา" ตั้งแต่ยุคยังคงใช้ชื่อมหาวิทยาลัยกรุงเทวดา ซึ่งชมรมที่นี้นับว่าเป็นสมาคมแรกสำหรับการค้าหน้าแข้งอาชีพโดยย้ายมาใส่เสื้อเบอร์ 2 ทำงานแนวรับให้กับกลุ่มในช่วงฤดูกาล 2008
ข้างหลังสมาพันธ์แปลงชื่อเป็น กางงค็อก ยูไนเต็ด เขายังคงอยู่กับกลุ่มถัดไป ซึ่งในตอนนั้นถือว่า คมกริช เป็นคนสำคัญของกลุ่ม และก็เป็นตอนพีคในชีวิตค้าหน้าแข้งของกองข้างหลังรายนี้เพราะเหตุว่าเคยมีชื่อติดกลุ่มชาติไทยชุดกีฬาซีเกมส์รวมทั้งปรีโอลิมปิกอีกด้วย
แม้กระนั้นทางกับ กางงค็อก เป็นไปไม่ค่อยงามมากแค่ไหนเนื่องจากว่าในเวลาถัดมาเขาแปลงเป็นสำรองหลายครั้ง และก็ถูกปลดปล่อยให้ ร้อยเอ็ดยูไนเต็ด ยืมใช้งานในปี 2010 และก็แม้ว่าจะถูกดึงกลับมาสู่สังกัดเดิมที่จริงจริงเขาก็ไม่บางทีอาจแทรกแย่งเก้าอี้ตัวจริงได้เลย
สุดท้ายเขาถูกส่งไปเล่นกับ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนที่จะถัดมาจะถูกปลดปล่อยออกมาจากกลุ่มถาวรในสมัย มาโน่ โพลกิ้ง คมกริช ซึ่งย้ายไปอยู่กับจังหวัดสระบุรี เอฟซี, จังหวัดศรีสะเกษ เอฟซี, สุพรรณ, ไทยฮอนด้า เอฟซีแล้วก็จังหวัดชลบุรี เอฟซี เป็นลำดับ
สราวุธ กองลาภ
จัดเป็นจอมหนึบมากมายประสบการณ์เมื่ออดีตกาลจนกระทั่งปัจจุบันนี้เขาผ่านกิจการค้าหน้าแข้งมาแล้วหลายสมาพันธ์รวมทั้ง กางงค็อก ยูไนเต็ดด้วยเช่นเดียวกัน
สราวุธ เริ่มค้าหน้าแข้งกับ ศุลกากร ยูไนเต็ด เป็นกลุ่มแรกในปี 2008 ก่อนที่จะถัดมาจะย้ายไปอยู่กับ กางงค็อก ยูไนเต็ด แต่เวลานี้เขายังประสบการณ์น้อยทำให้ช่องทางลงเฝ้าเสาน้อยตามไปด้วย โดยฤดู 2013 เจ้าตัวลงช่วยกลุ่มไปเพียงแค่ 2 นัดหมาย
ข้างหลังไม่บางทีอาจก้าวขึ้นมาเป็นมือชั้นยอดของกลุ่มทำให้เขาจำต้องย้ายออกจาก กางงค็อก รวมทั้งค้าลำแข้งกับอีกหลายสมาพันธ์ทั้งยัง องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย เอสซี, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, กทม.กล๊าส เอฟซี, ราชกองทัพเรือ เอฟซี, จังหวัดสุโขทัย เอฟซี, จังหวัดเชียงราย ยูไนเต็ด โชคร้ายที่ยังไม่ทันเปิดฤดูก็ได้รับเจ็บทำให้มิได้ลงเฝ้าเสาเลยแม้กระทั้งเกมเดียวรวมทั้งถูกปลดปล่อยให้ จังหวัดศรีสะเกษ เอฟซี ยืมใช้งาน รวมทั้งย้ายมาอยู่กับ สุพรรณ เอฟซี ในปี 2018
อาลีฟ เปาะจิ
ผู้ครอบครองสมญานาม "ศอกบินมหารอยแดง" เคยเข้ามาสร้างความดุเดือดให้กับ กางงค็อก ยูไนเต็ด มาแล้วเมื่อครั้งสมัยก่อน
แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลใจร้อน แต่ว่าไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าเขาเป็นนักฟุตบอลสารพัดประโยชน์ที่ฝีเท้าดีเยี่ยมที่สุดแถมยังจัดเป็นลำแข้งเชิงสูงที่ยากจะหาคนไหนเปรียบเทียบ โดย อาลีฟ ย้ายจาก จังหวัดบุรีรัมย์เอฟซี มาอยู่กับ กางงค็อก ยูไนเต็ด แม้กระนั้นจังหวะลงไปในสนามของเขามีไม่มากมายสักเท่าไหร่ ก่อนที่จะจำเป็นต้องย้ายลงไปค้าลำแข้งกับจังหวัดภูเก็ต เอฟซี
จากนั้นเขากลับสู่ลีกสูงสุดอีกรอบในสีเสื้อ ราชกองทัพเรือ เอฟซี โดยเป็นขุมกำลังสำคัญที่ "ตะหานน้ำ" จะจำเป็นมาก แม้กระนั้นแล้วในเวลาถัดมาเขาก็ทำเอาแฟนบอลช็อกกันเป็นแนวเมื่อตกลงใจกลับไปรับใช้กลุ่มรกรากอย่าง นรา ยูไนเต็ด ในไทยลีก 3 ในขณะที่เวลานั้นฝีเท้าของเขาสามารถเล่นลีกสูงสุดได้สบายๆแม้กระนั้นก็ย้ายไปอยู่กับ แพร่ ยูไนเต็ด ช่วงสั้นๆก่อนที่จะกลับมาอยู่กับ นรา อีกครั้งจนกระทั่งปัจจุบันนี้
อดิศร ภัทรประสิทธิ์
หลายๆคนบางทีอาจชินหูชินตาลำแข้งรายนี้จากการเล่นให้กับ จังหวัดบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ที่ดินแดนอีสาน แม้กระนั้นกาลครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยย้ายมาใส่เสื้อ กางงค็อก ยูไนเต็ด มาแล้วเช่นเดียวกัน
ก่อนที่จะเริ่มทางลูกหนังประเทศไทยเขาเคยบินไปเก็บประสบการณ์เมืองนอกกับ ฮาเลลูยา กลุ่มในประเทศเกาหลีใต้ตรงเวลาครึ่งปี ก่อนที่จะแล้วเขาจะถูก จังหวัดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จับเซ็นสัญญามาร่วมทีมในปี 2013 แต่ว่าช่วงเวลาเดียวกันการบาดเจ็บหมอนรองกระดูกที่เขาเป็นตั้งแต่ยุคเรียนมหาวิทยาลัยก็กำเริบเสิบสานอีกทีกระทั่งมิได้ลงฝึกกับกลุ่มตลอดเลกแรก รวมทั้งถึงแม้ว่าจะกลับมาได้แต่ว่าก็ยากที่จะแทรกตำแหน่งตัวจริง
ต่อจากนั้นเขากล่าวลา "วังสายฟ้า" และก็ย้ายมาเริ่มต้นใหม่กับ กางงค็อกยูไนเต็ดในปี 2014 เวลานั้นดูเหมือนจะเป็นความเปลี่ยนที่ดีที่จะนำเขามีอนาคตอันแจ่มใสกับทางลูกหนังแต่ทว่าก็เกือบจะมิได้ลงเล่นให้ "หน้าแข้งเทวดา" เพราะเหตุว่าการบาดเจ็บเดิมยังตามมาหลอกโน่นทำให้ปีดังที่กล่าวมาแล้วเป็นปีแรก แล้วก็ปีท้ายที่สุดกับ กางงค็อก ทั้งยังเป็นฤดูท้ายที่สุดในฐานะนักฟุตบอลอาชีพสำหรับเขา
ด้วยเหตุว่าในปีนั้น อดิศร ประกาศห้อยสตั๊ดอย่างเป็นทางการ...
ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด
ข้างหลังถูก พัทยา ยูไนเต็ด ปลดปล่อยออกมาจากกลุ่มเขาราวกับกำเนิดใหม่ข้างหลังย้ายไปทำผลงานเยี่ยมยอดกับ จังหวัดสุพรรณบุรี เอฟซี
ปิยะราษฏร์ มีฤดูที่สุดยอดกับ "ช้างศึกยุทธหัตถี" ในปี 2014 เขาเป็นกำลังสำคัญของกลุ่มที่ลงในสนามไปถึง 31 เกม เขาเป็นนักฟุตบอลที่มีความเด่นประเด็นการวางบอลอันถูกต้องผ่านบอลดี โน่นทำให้ กางงค็อก ยูไนเต็ดตกลงใจดึงเขาไปร่วมกลุ่มในเวลาถัดมา
จากฟอร์มที่กำลังเป็นไปด้วยดีแต่ดับการย้ายมาอยู่ในกลุ่ม "ลำแข้งเทวดา"ทุกสิ่งผิดจากที่คิดเมื่อไม่บางทีอาจแทรกตำแหน่งตัวจริงได้ แล้วก็ลงในสนามไปเพียงแต่ 2 นัดหมายตลอดการเล่นให้ กางงค็อก ก่อนที่จะแล้วต่อจากนั้นจำเป็นที่จะต้องย้ายไปพบการบรรลุผลกับ จังหวัดสุโขทัย เอฟซี เขาเปลี่ยนเป็นตัวหลักของกลุ่ม รวมทั้งยังคงอยู่กับ “ค้างคาวไฟ" จนกระทั่งตอนนี้
ปรัชญ์ สมัคราษฎร์
ป้อมข้างหลังมากมายประสบการณ์รายนี้มีฤดูที่ไม่น่าจำสักเท่าไหร่ในวันที่เขาย้ายมาใส่เสื้อ กางงค็อก ยูไนเต็ด
จริงอยู่ที่เขาบางทีอาจเป็นกองข้างหลังเชิงสูงฝีเท้าดี รวมทั้งเคยผ่านการเล่นมาแล้วหลายสมาพันธ์รวมทั้งเคยเป็นอันมากหลักให้กลุ่มชาติไทยตอนหนึ่ง แม้กระนั้นฟอร์มอันเหมาะสมที่สุดดังที่กล่าวผ่านมาแล้วไม่เคยเกิดขึ้นในวันที่เขาย้ายมาเล่นให้กับ "หน้าแข้งเทวดา"
ปรัชญ์ ถูก กางงค็อง คว้าตัวจาก จังหวัดสุพรรณบุรี เอฟซี มาร่วมทัพหมายให้มาช่วยเสริมความเข้มแข็งเกมรับข้างหลังบ้าน แต่ว่าด้วยการบาดเจ็บที่ตามโจมตีทไให้เขาได้โอกาสลงสู่สนามน้อยมากๆสถิติการลงเล่น 15 นาที จาก 1เกม เป็นปริมาณเวลาทั้งปวงของเขากับ "ลำแข้งเทวดา" ก่อนที่จะถัดมาจะย้ายไปอยู่กับ จังหวัดสุโขทัย เอฟซี ท้ายที่สุด
ฉัตรชัย คุ้มพญา
ระยะแรกกับการเล่นให้ "ลำแข้งเทวดา" ในลีกสูงสุดเขาเป็นหน้าแข้งฝีเท้าดีจนได้ลงไปในสนามออกจะสม่ำเสมอ แม้กระนั้นมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงแต่ช่วงสั้นๆ
ฉัตรชัย สามารถเล่นได้อีกทั้งตำแหน่งกองหน้า และก็กองกลาง โดยฤดู2013 เขาลงสนาให้กลุ่มไป 25 นัดหมาย แม้กระนั้นต่อจากนั้นทุกสิ่งราวกับหนังคนละม้วนเมื่อ ฉัตรชัย ไม่บางทีอาจก้าวขึ้นมาเป็นตำหลักได้ดังเดิมด้วยเหตุว่าปัจจัยที่สมาพันธ์เดินหน้าเสริมกองทัพตลอดด้วยแผนการที่สูงมากขึ้นทำให้เจ้าตัวได้ช่องลงเล่นลดน้อยลงไปทุกครั้ง
ตลอดสองปีข้างหลังกับ "ลำแข้งเทวดา" เขาได้ลงในสนามเพียงแต่ไม่กี่นัดหมายทำให้จำเป็นต้องย้ายไปอยู่กับ จังหวัดชัยนาท เอฟซี เพื่อหาจังหวะลงสู่สนามมากเพิ่มขึ้นในคำสัญญายืมตัว ที่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกรอบทำให้ท้ายที่สุด จังหวัดชัยนาท ตกลงใจซื้อขาดในเวลาถัดมา
นรภัทร ไก่แก้ว
ด้วยเกมรุกของ "ลำแข้งเทวดา" เต็มไปด้วยนักฟุตบอลฝีเท้าดีทำให้ชีวิตของกองหน้ารายนี้กับ กางงค็อก ไปได้ไม่สวยเท่าใด
แรกเริ่มเขาเป็นหัวหอกฝีเท้าดีที่ไต่ระดับขึ้นมาจากแวดวงลูกหนังขาสั้นได้น่าดึงดูดพร้อมเคยติดกลุ่มชาติไทยชุดปรีโอลิมปิกมาแล้วเมื่อปี 2011 แม้กระนั้นการเล่นกับ กางงค็อก เขาไม่อาจจะยึดตำแหน่งตัวจริงของกลุ่มได้เลยทำให้เปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลที่มักถูกปลดปล่อยให้สมาคมอื่นยืมตัวเสมอ
นรดี ถูก บียู ปลดปล่อยให้หลายทีมยืมไปใช้งานอีกทั้ง จังหวัดนครปฐมยูไนเต็ด แล้วก็ศุลกากร ยูไนเต็ด ในช่วงเวลาที่ฤดูนี้จะย้ายไปร่วมกองทัพจังหวัดอ่างทอง เอฟซี ในไทยลีก 2 ก่อนที่จะตอนนี้กำลังค้าหน้าแข้งอยู่กับราชกองทัพเรือ เอฟซี โดยลงสู่สนามไปแล้ว 4 นัดหมาย
