10 แข้งธรรมดากลายเป็นสตาร์ภายใต้น้ำมือคล็อปป์


LIVESCORE บอลสด PRESENT : การเปลี่ยนดินให้เป็นดาวคือคุณสมบัติที่ผู้จัดการทีมที่ดีควรจะมีเพราะนั่นเท่ากับว่าเขาได้ใช้ทรัพยากรที่มีได้อย่างคุ้มค่าและเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนปัจจุบันของ ลิเวอร์พูล ก็มีลักษณะที่เข้าเค้าเช่นกัน และวันนี้เราจะมาดูกันว่ามีนักเตะคนใดบ้างที่นายใหญ่ชาวเยอรมันจัดการปั้นพวกเขาจากดินสู่ดาว

1.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในทุกวันนี้ถ้าหากมีการจัดลำดับกองหน้าที่เยี่ยมที่สุดในโลกควรจะมีชื่อของ เลวานดอฟสกี้ อยู่ในลิสต์นั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

เด็กวัยหนุ่มชาวโปรเเลนด์เติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา เลวานดอฟสกี้ เริ่มเล่นบอลในระดับเยาวชนกับกลุ่ม เดลต้า วอร์ซอว์ ในปี 1997-2005 ก่อนเลเกีย วอซอว์ จะมองเห็นแววและก็ดึงตัวเขามาเข้าท่าเข้าทางมชุดอติดอยู่เดมี่

การได้อยู่กับกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันได้อย่างง่ายๆดาวยิงชาวประเทศโปแลนด์ไม่เคยสบโอกาสลงไปในสนามให้กับกลุ่มชุดใหญ่เลยแม้กระทั้งเกมเดียว เขาใช้เวลาฝึกแล้วก็ลงเล่นในกลุ่มสำรองแค่นั้น จนตราบเท่าสุดท้ายเขาก็ย้ายไปอยู่กับ นิคซ์ พรัสซคอฟ กลุ่มที่อยู่ ดิวิชั่น 3ของประเทศอย่างยิ่งจริงๆ

แม้ว่าจะเป็นกลุ่มเล็กๆแม้กระนั้นตรงนั้นก็เป็นราวกับสังเวียนแรกของเขา เลวานดอฟสกี้ ลงเล่นให้กับ นิกซ์ ฤดูแรกเขาก็จัดหนักเข้าให้ซะเเล้ว เจ้าตัวตะบันไปถึง 15 ประตูและก็ช่วยทำให้สังกัดเดิมเลื่อนชั้นได้เสร็จในช่วงฤดูกาล 2006-07 และก็มันไม่ใช่แค่ปีเดียวที่เขาทำเป็นแบบงั้น ในช่วงฤดูกาลถัดมาสำหรับ ดิวิชั่น 2 แม้ว่าจะเป็นลีกที่มาตฐานสูงมากขึ้นแม้กระนั้นเขาก็ยกฐานะตนเองขึ้นเหมือนกัน เลวานดอฟสกี้ ยิงอีก 21 ประตูในช่วงฤดูกาลนั้นและก็พาทีมเลื่อนชั้นอีกทีแบบปีต่อปี

แล้วก็การทำประตูกระหน่ำทะลายอย่างงี้มีหรือที่อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในประเทศจะอยู่เฉยได้ เลช เพียงพอซนัน จัดแจงยื่นข้อเสนอ 1.5 ล้านยูโรเพื่อซื้อตัวเขามาร่วมทีมในปี 2008 และไม่ถูกสงสัยเลยว่าเขาทดแทนค่าตอบแทนได้คุ้มขนาดไหน ตลอดเวลา 2 ปีกับ พอเพียงซนัน เลวานดอฟสกี้ลงสู่สนามไปทั้งยัง 82 เกมและก็ยิงไปอีก 41 ประตู โน่นเท่าๆกับว่าเขามีค่าเฉลี่ยการทำประตู 1 ลูกในทุกๆ2 เกม ยิ่งกว่านั้นเขายังพาสังกัดเดิมได้แชมป์ลีกได้ในปี 2009-10 พร้อมพ่วงรางวัลดาวซัลโวอีกด้วย

เมื่อการแข่งขันชิงชัยในประเทศไม่สามารถที่จะหยุดเขาได้ ก็ถึงเวลาที่เขาจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ตนเองในเวทีระดับที่ค่อนข้างสูงกว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอมชำระเงินราว 4.5 ล้านยูโรเพื่อซื้อตัวเขามาล่าตาข่ายบนแผ่นดินเยอรมัน แน่ๆว่าการซื้อตัวอันเฉลียวฉลาดคราวนี้ พบร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมของเสือเหลืองมีส่วนแบบเต็มๆ

ตลอดเวลา 4 ปีกับ ดอร์ทมุนด์ รวมทั้งการร่วมงานจาก พบร์เก้น คล็อปป์ เลวานดอฟสกี้ ถูกเชิดชูว่าเป็นกองหน้าตัวเป้าที่เหมาะสมที่สุดในบุนเดสลีกาเขาลงสู่สนามไปทั้งปวง 187 นัดหมายรวมทั้งยิงไป 103 พร้อมพาทีมปัดกวาดการบรรลุผลมากมายก่ายกองไม่ว่าจะเป็น แชมป์บุนเดสลีกา 2 สมั้ย (2010-11 , 2011-12) เดเอฟเบ โพติดอยู่ล 1 ยุค แล้วก็เยอรมันซูเปอร์คัพอีก 1ยุค

ถึงแม้จุดหมายของเขากับดอร์ทมุนด์จะจบไม่สวยนักเมื่อเจ้าตัวเลือกที่จะย้ายกลุ่มแบบไม่มีคุณค่าตัวไปอยู่กับคู่ปรปักษ์ร่วมลีกอย่าง บาเยิร์น มิวนิคทำให้เขาโดนหมายหน้าว่าเป็นจูดาสหรือคนคิดคดทรยศ แม้กระนั้นโน่นคือเรื่องของความรู้สึก รวมทั้งถ้าหากจะวัดจากฝีเท้าเขาเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้คนไหนกันแน่ นอกจากนั้น เลวานดอฟสกี้ ยังให้สัมภาษณ์เชิดชู คล็อปป์ ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้เขาแปลงเป็นนักฟุตบอลที่เพอร์เฟ็คได้ยกตัวอย่างเช่นปัจจุบันนี้

"เขาเป็นผู้ฝึกสอนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้ความเข้าใจ เขาจะใช้ความรู้ที่เขามีเพื่อปรับปรุงนักฟุตบอลทุกๆคน ผมได้ศึกษาอะไรหลายๆอย่างจากเขาแล้วก็เนื่องจากว่าคล็อปป์นั่นแหละที่ทำให้ผมเป็นนักฟุตบอลที่เพอร์เฟ็ค" ...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายอดดาวยิงคนนี้เจริญด้วยเหตุว่าคนใด


2. มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์
เป็นอีกทีที่แวดวงบอลเยอรมันจะต้องขอบคุณมากพบร์เก้น คล็อปป์ ที่ช่วยปั้นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เพอร์เฟ็คมาทันเวลาในยามที่กลุ่มอินทรีเหล็กกำลังขาดเเคลนลานพอดีเป๊ะ

ฮุมเมลส์ นั้นเป็นเด็กปั้นของ บาเยิร์น มิวนิค เขาไปสู่อติดอยู่เดมี่ของเสือใต้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบเพียงแค่นั้นก่อนใจะใช้ช่วงเวลากว่า 12 ปี เพื่อปรับปรุงตนเองจนถึงก้าวขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่ได้เสร็จ

ในถิ่นอลิอันซ์ อารีน่า ไม่ใช่ง่ายนักสำหรับเด็กแคว้นที่จะแทรกตำแหน่งกับดาวตามที่สังกัดเดิมซื้อตัวมาร่วมทีม ฮุมเมิ่ลส์ เองก็เช่นเดียวกันเขาได้ลงเล่นให้กับกลุ่มชุดใหญ่เพียงแค่เกมเดียวเพียงแค่นั้นในช่วงฤดูกาล 2006-2007 โน่นทำให้เข้าต้องหาทางขยับขยายบ้างเเล้วเพื่อจังหวะลงสู่สนามที่มากขึ้น

ดอร์ทมุนด์ ในช่วงที่ยังจนกรอบตกลงใจยืมตัวเขามาใช้งานแบบเต็มฤดูพร้อมให้คำรับรองว่าเขาจะเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆในตำแหน่งกองหลัง รวมทั้งโน่นทำให้ ฮุมเมิ่ลส์ ได้ได้โอกาสลงเล่นไป 19 เกมในช่วงฤดูกาลดังกล่าวข้างต้น แล้วต่อจากนั้นในปี 2008 พบร์เก้น คล็อปป์ ก็ถูกแต่งตั้งเป็นกุนซือ

คล็อปป์ ตกลงใจซื้อขาด ฮุมเมิ่ลส์ จากเสือใต้ด้วยค่าจ้างราว 4 ล้านยูโรและก็โน่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเสือใต้ด้วยเหตุว่า ฮุมเมิ่ลส์ มิได้อยูในแนวทางทำทีมของพวกเขาอยู่เเล้ว การได้ร่วมงานกับคล็อปป์ทำให้เขาแปลงเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เข้มแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเริ่มได้รับจังหวะลงสู่สนามมากเพิ่มขึ้นแล้วก็ตอนท้ายก็เป็นนักฟุตบอลที่เสือเหลืองจะจำเป็นมากแล้วก็ได้รับปลอกใส่แขนกัปตันกลุ่มไปสุดท้าย

นอกเหนือจากนี้การซื้อตัว เนเว่น ซูโบว่ากล่าวช แนวรับชาวเซอร์เบียเข้ามาเปลี่ยนเป็นตัวต่อเกมรับที่พอดีของเสือเหลือง ทั้งยัง ฮุมเมิ่ลส์ แล้วก็ ซูโบว่ากล่าวช จับคู่กันได้อย่างพอดีรวมทั้งเเข็งแข็งและก็พาสังกัดเดิมวิ่งชนการบรรลุผลมาอย่างโชกโชนภายใต้มันสมองของ พบร์เก้น คล็อปป์ นั่นเอง

ฮุมเมิ่ลส์ เปิดใจถึงสมัยก่อนผู้จัดการทีมฟุตบอลของเขาตอนหลังว่าเป็นผู้ฝึกสอนที่มีอารมณ์ร้ายแรงและก็เปี่ยมไปด้วยแพสชั่นที่สำคัญยิ่งว่านั้นเป็นคล็อปป์ เหิมใจนักฟุตบอลทุกคนโน่นเป็นมูลเหตุที่ทำให้นักฟุตบอลของ ดอร์ทมุนด์ ทุกคนพร้อมสู้ตายมอบหัวให้กับนายใหญ่สวมแว่นรายนี้

"บางคราวคุณก็อยากได้เสวนากับผู้ฝึกสอน โดยที่คุณสามารถเสียงดังได้สำหรับ เลิฟ บางครั้งก็อาจจะน้อย แม้กระนั้นกับ คล็อปป์ มันร้ายแรงสูงที่สุดเท่าที่จะมากมายได้เลยล่ะ และก็มันก็อัดเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก พวกเราทะเลาะกัน แม้กระนั้นในอีกชั่วโมงต่อมา พวกเราก็กลับมาคุยกัน และก็พวกเราดีแล้วกันดังเดิม มันเป็นความสโมสรที่ดี" นี่เป็นคำรับรองที่เขาเพิ่งจะบอกไปเมื่อเร็วๆนี้



3. โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ไม่ใช่แค่นักฟุตบอลที่ซื้อมาด้วยราคาไม่แพงๆเพียงแค่นั้นที่ คล็อปป์ จะร่วมงานด้วยได้ โรกางร์โต้ ฟีร์ไม่โน่ เป็นนักฟุตบอลค่าตอบแทนร่วม 30 ล้านปอนด์ที่ คล็อปป์ สามารถปลุกความฮ็อตให้กับดาวยิงชาวบราซิลได้อีกรอบข้างหลังเกือบจะหมดไฟไปแล้วในสมัยที่ เบรนเเดน ร็อดพบร์ส คุมกลุ่ม

ฟีร์ไม่โน่ นั้นเริ่มเล่นบอลอาชีพหนแรกกับ ฟิเกกมะเหรกเกเรนเซ่ กลุ่มในลีกบราซิล ก่อนที่จะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ กลุ่มสมาชิกใหม่ของเวทีบุนเดสลีกาจะซื้อตัวเขามาร่วมทีมในปี 2010

ภายหลังจากก่อกวนบนแผ่นดินเยอรมันเป็นระยะเวลากว่า 5 ฤดู ด้วยฟอร์มการเล่นระดับมาสเตอร์พีซยิงไป 50 ประตูจากการลงสู่สนามให้กับหมู่บ้านที่ความคาดหวัง 153 เกมโน่นก็มากพอที่จะทำให้เกียรติศักดิ์ของเขาเดินทางไกลไปถึงอังกฤษก่อน หงส์แดง จะไม่คอยช้าจัดแจงคว้าตัวเขาไปร่วมกลุ่มในช่วงฤดูกาล 2015-16


การแบกค่าตอบแทน 30 ล้านปอนด์บนแผ่นดินอังกฤษไม่ใช่ง่าย ภายใต้การควบคุมกลุ่มของ เบรนเเดน ร็อดพบร์ส ผลงานของ ฟิร์ไม่โน่ นั้นออกสมุทรไปไกลอย่าว่าแต่ว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำประตูเลย เขายังหาตำแหน่งที่ถูกเขาตนเองมิได้เลยด้วย

แต่เขาอยู่ในฝันร้ายได้ไม่นานภายหลังผลงานกลุ่มทรุดโทรม บีอาร์ ก็โดนไล่ออกรวมทั้งเป็น คล็อปป์ ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน ขณะนั้นทั้งยังคล็อปป์และก็ฟีร์ไม่โน่ใช้เวลาตั้งตัวอยู่ครู่หนึ่งกระทั่งขณะที่การพอดีก็เดินทางมาถึงนายใหญ่ชาวเยอรมันจัดให้ ฟีร์ไม่โน่ เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าร่วมประสานงานกับแนวรุกอย่าง ฟิลิปกระเป๋า คูติเตียนนโญ่ รวมทั้ง อดัม ลัลลาน่า โน่นทำให้ครึ่งฤดูข้างหลัง ฟีร์ไม่โน่ แปรไปเป็นคนละคนและก็ยิงได้ถึง11 ประตูจากการลงไปในสนามทั้งสิ้น 49 นัดหมาย รวมทั้งยังไม่หยุดเท่านั้นในช่วงฤดูกาลใหม่นี้ ฟีร์ไม่โน่ ยังคงเป็นตัวเลือกชั้น 1 ของ คล็อปป์ เหมือนเช่นเคยรวมทั้งเจ้าตัวก็ทดแทนความวางใจด้วยการยิงไปแล้ว 5 ประตูจากการลงสู่สนามทั้งผอง 11 เกม

ต่อไป คล็อปป์ เริ่มประกอบร่างนักฟุตบอลในเกมรุกของกลุ่มขึ้นมาใหม่ โดยเพิ่มเอา ซาดิโอ มาเน่ แล้วก็ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามาใส่ไว้ภายในเวลาถัดมา (มาเน่ 2016-17, ซาลาห์ 2017-18) จนถึงที่สุดแล้ว หงส์แดงก็ได้พบกับ 3 ทริโอที่อันตรายที่สุดในรอบยาวนานหลายปี และก็สิ่งที่การันตีเป็น SMF ยิงรวมทั้ง 29 ประตูพาลิเวอร์พูลเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา หากแม้กลุ่มจะทำเป็นแค่เพียงตำแหน่งรองแชมป์ก็ตาม

ฟีร์ไม่โน่ กล่าวถึงคล็อปป์ด้วยความชืนดูว่า "ผมเป็นสุขมากมาย ในตอนแรกผมไม่ค่อยได้ลงเล่นเท่าไรนัก จนถึงเขาเข้ามา เขารู้จักผมแล้วก็ผมก็รู้จักเขา พวกเราเข้ากันได้และก็จะต้องกล่าวว่าเขาเข้ามาพร้อมด้วยการผลิตความตรึงใจให้นักฟุตบอลทุกๆคนอย่างแท้จริง"


4. ชินจิ คากาวะ
การเป็นนักฟุตบอลที่เล่นให้กับกลุ่มชุดใหญ่ของ เซเรโซ่ โอซาก้า ในเจลีกตั้งแต่อายุ 17 ปีว่าแจ๋วแล้ว แต่ว่า คล็อปป์ ทำให้ ค้างกาวะ เยี่ยมขึ้นอีกทั้งอีกหลายเท่า

ในช่วงฤดูกาล 2010-2010 คล็อปป์ ทำให้แฟนบอลของ ดอร์ทมุนด์ จำต้องย่นคิ้วเป็นเครื่องหมายคำถามเมื่อเขาตกลงใจซื้อเด็กวัยรุ่นจากดินแดนอาทิตย์อุทัยมาร่วมทีมด้วยราคาเพียงแค่ 350,000 ยูโร ซึ่งนับเป็นการซื้อตัวที่ถูกมากมายๆสำหรับแวดวงบอลสมัย 2010 เป็นต้นมา

ติดอยู่กาวะ เข้ามารวมทั้งเกือบจะไม่ต้องปรับนิสัยอะไรเยอะมาก คล็อปป์มอบหมายให้เขาลงเล่นในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์รอปั้นเกมอยู่ด้านหลังเลวานดอฟสกี้ และก็สิ่งที่ได้กลับมาเป็น ดอร์ทมุนด์ ได้แชมป์ลีก 2 ยุคต่อเนื่องกันจำพวกที่ว่าพี่ใหญ่ของลีกอย่าง บาเยิร์น มิวนิค จะต้องอายแทบจะม้วนแผ่นดินหนี นอกเหนือจากนั้นผลงานส่วนตัวของติดอยู่กาวะก็จัดอยู่ในประสิทธิภาพระดับพรีเมี่ยมอย่างยิ่งจริงๆ 2 ฤดูกับเสือเหลืองเขาลงในสนามไปทั้งผอง 71 นัดหมายและก็ยิงไป 29 ประตู จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่ฮ็อตที่สุดในยุโรปในตอนนั้น

ต่อจากนั้นติดอยู่กาวะตกลงใจล่ำลาดอร์ทมุนด์ไปอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าจ้าง 16 ล้านปอนด์ ในช่วงฤดูกาล 2012-13 ซึ่งในปีนี้เขาก็ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีก 1 ยุคแล้วก็โน่นทำให้คนเป็นนักฟุตบอลที่ครอบครองแชมป์ลีกสูงสุดต่อเนื่องกันถึง 3 ปีอย่างยิ่งจริงๆ แต่ว่าถึงแบบนั้น คล็อปป์ ก็ยังรอสอดส่องสมัยก่อนสมาชิกของเขาอย่างไม่ละสายตา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจับ ค้างกาวะ ไปเล่นเป็นปีกซ้ายซึ่งโน่นทำให้ คล็อปป์ จำต้องตกระกำลำบากแทนพร้อมออกมากล่าวว่าจิตใจของเท่าเกือบจะสลายเมื่อมองเห็นเฟอร์กี้ วาง ติดอยู่กาวะ เล่นไม่ถูกตำแหน่ง

"เคยชินจิ ค้างกาวะ ยอดเยี่ยมในนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมในโลก รวมทั้งในเวลานี้ เขาเล่นไปเพียงแค่ 20 นาที ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตำแหน่งปีกซ้าย หัวใจผมสลายจริงๆแต่ว่าผมก็รู้เรื่องด้วยเหตุว่าสำหรับคนประเทศญี่ปุ่น มันสื่อความหมายที่ได้เล่นให้ แมนฯยู มากยิ่งกว่า ดอร์ทมุนด์ พวกเราร้องไห้ตลอด 20 นาที ในอ้อมกอดของกันและกัน เมื่อตอนเขาย้ายออกไป"

เป็นที่โชคร้าย ถ้าว่า ค้างกาวะ ยังร่วมงานกับ คล็อปป์ ถัดไปเขาบางทีอาจจะเป็น เพลย์เมคเกอร์ที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลกอย่างที่ คล็อปป์ เคยว่าไว้ก็เป็นไปได้


5. จอร์เเดน เฮนเดอร์สัน
จากกัปตันกลุ่มที่แม้กระทั้งแฟนบอลหงส์แดง เองยังไม่เปิดใจสารภาพมากสักเท่าไรนัก แต่ว่าภายหลังที่จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ร่วมมือกับ พบร์เก้นคล็อปป์ ในเวลานี้เขาแปลงเป็นกองกลางที่หงส์แดงจะขาดไปมิได้เสียเเล้ว

เฮนโด้ เป็นเด็กวัยหนุ่มจากเมือง ซันเดอร์แลนด์ ก่อนที่จะแจ้งกำเนิดให้กับกลุ่มถิ่นกำเนิดของเขาในช่วงฤดูกาล 2009-10 เขาลงเล่นไปกว่า 80 เกมตลอดระยะ 2 ปีกับทีม แมวดำ ก่อนที่จะฝีเท้าจะสะดุดตาแมวมองของหงส์แดงเข้าอย่างจัง กระทั่งจำต้องยอมชำระเงินกว่า 16 ล้านปอนด์เพื่อซื้อตัวมาร่วมทัพ

อย่างไรก็แล้วแต่ผลงานของเขากับหงส์แดงไม่ว่าจะในสมัยของเคนนี่ดัลกลิช หรือ เบรนเเดน ร็อดพบร์ส จำเป็นต้องพูดว่าต่ำกว่าค่าจ้างที่สูงลิบตาของเขาไปมาก เฮนโด้ หาตำแหน่งตนเองไม่พบเขาถูกจับไปเล่นปีกขวาบ้าง กองกลางตัวรับบ้าง หรือบางคราวก็โดนขยับไปเล่นเพลย์เมคเกอร์เลยก็มี นั่นเองเป็นต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เขาหาฟอร์มเก่งไม่พบ

นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเรากล่าวขึ้นมาแบบลอยๆดาเมี่ยน โคมอลลี่ อดีตกาลผู้อำนวยการบอลของกลุ่มหงส์เเดงก็พึ่งจะออกมาเห็นด้วยเมื่อเร็วๆนี้ว่าที่มาของการที่เขาโดนไล่ออกก็มาจากดีลที่ซื้อตัวเฮนเดอร์สันนี่แหละ

"การทุ่มเงินซื้อ เฮนเดอร์สัน เป็นเหตุผลหลักที่ผมโดนไล่ออก พวกเราสูญเงินไปเปล่าๆก็เพราะเหตุว่าเขา ซึ่งโน่นสุดแล้วแต่คนจะคิด ผมบางทีอาจไม่เคยบอกออกสื่อหรอกนะแม้กระนั้นกาลครั้งหนึ่งผมรู้สึกว่า เฮนเดอร์สัน จะเป็นกัปตันในอนาคต" ... นี่เป็นสิ่งที่ โคมอลลี่ เผย มันบางทีอาจจะมองง่ายที่จะมากล่าวภายหลังสถานะการณ์มันเกิดขึ้นเเล้ว แม้กระนั้นพวกเราก็จำเป็นต้องสารภาพว่า เฮนเดอร์สัน ได้รับการอัพเกรดระบบปฎิบัติการใหม่ภายใต้การเข้ามาของผู้จัดการทีม พบร์เก้น คล็อปป์
ฟอร์มของเฮนโด้ ในสมัยของ คล็อปป์ นั้นดียิ่งขึ้นอย่างแปลกตา เขาเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของแท็คติก "เกเก้น เพรสซิ่ง" สไตล์การเล่นของเขานั้นย้ำที่ความแน่ชัดมากยิ่งกว่าความหวือหวาแต่ว่าสิ่งนั้นเปลี่ยนไปเป็นตราของเขาไปเสียเเล้ว เขาเป็นผู้ที่มีความอุตสาหะเต็มเปี่ยม เขาทุ่มเทอย่างที่สุดที่จะพิสูจน์ตนเองให้ได้และไม่ถูกสงสัยเลยว่าช่วงนี้เขาสยบทุกเสียงวิภาควิจารณ์ลงใต้เเทบเท้าเขาเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อยเเล้ว แล้วก็สำคัญที่สุดเป็นเขาเป็นนักฟุตบอลที่ไม่หงอถึงแม้ว่าจะจะต้องพบกับคู่ปรับที่ตนเองมีศัยภาพโดยรวมด้อยกว่าก็ตาม

เดี๋ยวนี้ เฮนเดอร์สัน รับบทบาทกัปตันกลุ่มหงส์แดง แม้ว่าจะไร้รสชาติแม้กระนั้นเขาก็เป็นมดงานที่กลุ่มจะขาดไปมิได้ พูดได้ว่า คล็อปป์ ได้สร้างกองกลางพลังไดนาโมที่เพอร์เฟ็คขึ้นมาตกแต่งแวดวงบอลอังกฤษเป็นที่แน่ๆแล้ว 1 รายโน่นเป็น หน้าจอร์เเดน เฮนเดอร์สัน นี่เอง

6. ซาดิโอ มาเน่
ซาดิโอ มาเน่ มีค่าตัวการดขึ้นถึง 3 เท่าภายในระยะเวลาเพียงแค่สองปี และก็คนทีตกลงใจซื้อตัวเขาจาก เซาท์หมูแฮมป์ตัน มาอยู่กับ หงส์แดง ก็คือพบร์เก้น คล็อปป์ นั่นเอง

ค่าตอบแทน 34 ล้านปอนด์ของ มาเน่ อาจจะก่อให้คนจำนวนไม่น้อยจะต้องเลิกขนคิ้วสงสัย แม้ยังจำกันได้ในตอนซัมเมอร์ก่อนหน้านี้มีการล้อเลียนกันว่า หงส์แดง ยอมชำระเงินอย่างใหญ่โตเพื่อซื้อปีกที่ยังไม่พิสูจน์ตนเองในเวทีระดับที่ค่อนข้างสูงแทนที่จะซื้อ เฮนริค มคิตาร์ยาน นักฟุตบอลเหมาะสมที่สุดของดอร์ทมุนด์ซึ่งเป็นอดีตผู้ร่วมทีมของ คล็อปป์ มาร่วมทีมซึ่ง "มิคกี้"น่าจะเป็นนักฟุตบอลที่ตอบปัญหากว่าปีกชาวเซเนกัลหลายเท่านัก

"ผมถูกใจนักฟุตบอลอย่างนี้ล่ะ ผมไม่ได้อยากต้องการกล่าวอะไรมากยิ่งกว่านี้ พวกเราเข้าใจกันดีถึงความสามารถฝีเท้าที่เขามี แล้วก็ทราบเหตุว่าสไตล์การเล่นของเขาประจวบเหมาะกับกลุ่มของพวกเราแค่ไหนต่างหากที่เป็นเหตุผลที่ผมซื้อเขามาร่วมทีม" นี่ไม่ใช่อาการปากเก่งรวมทั้งเชื่อมั่นจนกระทั่งเกินกำลังของ คล็อปป์ เมื่อผลงานของ มาเน่ ในตอนออกตัว 10 เกมแรกของฤดูได้บ่งชัดออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่คล็อปป์กล่าวนั้นถูกไม่ผิดบ้าแม้กระทั้งคำเดียว

แล้วก็ในตอนนี้ มาเน่ก็เสมือนจะพิสูจน์ตนเองได้แล้วว่าเขาดีแค่ไหน จากวิธีการทำไป 20 ประตูจากทุกรายการ พร้อมด้วยพาทีมทะลุเข้าไปถึงรอบชิงแชมป์ในแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูก่อนได้อีกด้วย


7. มาริโอ เกิตเซ่
การถือจับนักฟุตบอลเยาวชนเอามาปั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ คล็อปป์ ทำไม่ได้ แล้วก็มาริโอ เกิตเซ่ เป็นแบบอย่างที่มองเห็นได้อย่างเห็นได้ชัดเยอะที่สุด

คล็อปป์ เริ่มมองเห็นแววของ เกิตเซ่ ตั้งแต่ในตอนที่ดาวเตะกลุ่มชาติเยอรมันยังแก่เพียงแค่ 17 ปีเเละเล่นในกลุ่มสำรองของ ดอร์ทมุนด์ ก่อนที่จะเริ่มเปิดโอกาสลงในสนามเกมแรกในลีกในเกมที่เจอกับ ไมนซ์ 05 ในวันที่ 21 พ.ย. ปี 2009 เกิตเซ่ ถูกเปลี่ยนแปลงลงมาแทน ยาปะทุบ บลาสซีคอฟสกี้ ในนาทีที่ 88 รวมทั้งภายหลังจากหมดตอนพักเบรกหน้าหนาวในปีนั้น คล็อปป์ ก็จัดแจงส่งเสริม เกิตเซ่ ขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่อย่างเต็มกำลัง

หากแม้ในช่วงฤดูกาลนั้น เกิตเซ่ จะได้ลงสู่สนามเพียงแต่ 5 เกมแค่นั้นแม้กระนั้นโน่นก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เนื่องจากว่าของแท้มันเป็นปีถัดมา ในช่วงฤดูกาล 2010-11 เกิตเซ่ ผันตนเองเป็นเป็นนักฟุตบอลคนสำคัญของกลุ่มเสือเหลืองได้ในทันที เขาประสานสวยเกมรุกร่วมกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ , ลูคัส บาริออส และก็ คุ้นชินจิ ค้างกาวะ ได้อย่างพอดี ซึ่งผลลัพท์ก็คือ ดอร์ทมุนด์ เปลี่ยนเป็นแชมป์บุนเดสลีก้าในช่วงฤดูกาลนั้นอย่างมากใหญ่ แล้วก็ เกิตเซ่ เองก็พ่วงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งดีที่สุดที่ปีไปครอบครองอีกด้วย


มันยังไม่ใช่แค่นี้ในช่วงฤดูกาล 2011-12 เกิตเซ่ แล้วก็ผองเพื่อนพ้องเสือเหลืองภายใต้การควบคุมกลุ่มของ คล็อปป์ ก็สืบต่อความใหญ่โตด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกทั้งบอลลีกและก็บอลถ้วยในประเทศไปครอบครอง ซึ่งเกิตเซ่เองก็บวกรางวัล โกลเด้น บอย หรือนักฟุตบอลดาวรุ่งดีเลิศของโลกไปครอบครองในปี 2012 ได้เสร็จ หากแม้ในถิ่น สิกข์นัล อิดูน่า พาร์คเขาจะเป็นราวกับพระราชโอรสของกลุ่ม แต่ว่าที่สุดเเล้ว เกิตเซ่ ก็เลือกย้ายไปอยู่กลุ่มที่ใหญ่มากยิ่งกว่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงฤดูกาล 2013-14 รวมทั้งหัวข้อนั้นก็ทำให้ คล็อปป์ เองปวดใจไม่น้อยที่มองเห็นนักฟุตบอลที่เขารักแล้วก็ปั้นมาพร้อมกับมือจำต้องจากกลุ่มไปอีกหนึ่งคน

"เหตุผลที่เกิตเซ่ย้ายมันก็เป็นด้วยเหตุว่าเขาเป็นวัตถุประสงค์ของ กวาร์ดิโอล่า นั่นแหละ ซึ่งหากจะโทษใครสักคนสำหรับประเด็นนี้ก็ควรเป็นผมเองนี่แหละที่ไม่ถูก ผมทำให้ตนเองเตี้ยลงกว่านี้ 15 ซม.มิได้ ผมบอกประเทศสเปนมิได้ เขา(เกิตเซ่)อยากได้ร่วมงานกับผู้จัดการทีมที่พิเศษอย่าง เป็ปซึ่งผมเองก็ไม่สามารถทำทีมสไตล์ว่ากล่าวกี้ ตาก้า ได้เสมือนอย่างเขา" นี่เป็นสิ่งที่ คล็อปป์ เอ๋ยถึงการย้ายกลุ่มของลูกศิษย์รักของเขาไว้อย่างน่าสงสาร

ถึงแม้ที่สุดเเล้ว เกิตเซ่ บางครั้งอาจจะมิได้มีช่วงหนดีนักกับ บาเยิร์น มิวนิครวมทั้งเขาจำเป็นต้องซานซมกลับมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ อีกทีในทุกวันนี้ แต่ว่าคราวหนึ่งเขาก็เคยเป็นนักฟุตบอลเกมรุกระดับอัจฉริยะที่หาตัวจับยากภายใต้การควบคุมกลุ่มของ คล็อปป์ นั่นเอง


8. ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง
เป็นอีกรอบที่ คล็อปป์ ใช้เวทย์มนต์ปลุกของนักฟุตบอลโนเนมสู่นักฟุตบอลระดับท็อปซึ่งก็คือศูนย์หน้าชาวกาบองอปิ้ง ปิเครื่องปรับอากาศ-เอเมริก โอบาเมยอง

ทางชีวิตของโอบาเมยอง เริ่มด้วยการเป็นเด็กฝึกฝนในกลุ่มเยาวชนของเอซี มิลาน ก่อนอสุรกายเเดงดำจะเฉยเมยอะไรเขานักเเละขายเขาให้กับ แซงต์เอเตียง ในราคาสุดถูกเพียงแค่ 3 ล้านยูโรในมกราคมปี 2011 ก่อนที่จะโอบาเมยอง จะแสดงปฎิกิริยาตอบกลับดังเสือร้ายที่คืนสู่ป่า เพราะว่าเวลาเพียง 2 ฤดูครึ่ง เจ้าตัวลงไปในสนามไปทั้งสิ้น 96 นัดหมายรวมทั้งหวดไปอีก 41 ประตู

เมื่อฟอร์มแรงขนาดนี้มีหรือนักปั้นมือทองคำอย่าง คล็อปป์ จะทานทนไหว"เจเค" เข้าพบรือกับกระดานบริหารของสมาพันธ์เเละเบิกงบประมาณในคลังเก็บของราว 15 ล้านยูโรเพื่อซื้อตัว โอบาเมยัง มาร่วมทีมในตอนซัมเมอร์ปี2013-14 ซึ่งเจ้าตัวก็เครื่องจัดตั้งแม้กระนั้นฤดูแรกด้วยการซัดไป 16 ประตูจากการลงในสนาม 48 นัดหมาย

แต่ในช่วงฤดูกาลถัดมาเป็นการแจ้งกำเนิดอย่างสุดกำลังของเขา โอบาเมยังโดน คล็อปป์ ขยับจากตำแหน่งปีกมาเล่นเป็นกองหน้าเพื่อแทนที่ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนเริ่มฤดู 2014-15แล้วก็ในตอนแรกนั้นหลายข้างก็เป็นห่วงว่า คล็อปป์ จะทำยังไงถัดไปกับชีวิตที่ไม่มีดาวยิงเบอร์ 1 ของกลุ่มที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ตำหนิมาตลอดเวลา 4 ปีให้หลัง

คำตอบก็คือ โอบาเมยองก้าวขึ้นมาเป็นยอมผลิตสกอร์แทนเลวานดอฟสกี้ให้กับเสือเหลืองได้อย่างไร้รอยต่อ ดาวยิงชาวกาบองยิงในทุกรายการไป 25ประตูและก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดของกลุ่มในช่วงฤดูกาล

อย่างไรก็แล้วแต่ด้วยกระบวนการทำกลุ่มได้เพียงแค่ชั้น 7 ในในที่สุดคล็อปป์ ก็ประกาศลาออกจากกลุ่มภายหลังจากคุมกลุ่มมาตั้งแต่ปี 2008 ถึงแม้ "เจเค" จะไม่ค่อยมีความสำเร็จสักเท่าไหร่ในปีในที่สุดกับ ดอร์ทมุนด์ แต่ว่าอย่างต่ำเขาก็ทิ้งเพชรเม็ดสวยอย่าง โอบาเมยอง เป็นมรดกที่ล้ำค่าสำหรับในการทำทีมของผู้จัดการทีมคนถัดไป


9. มาร์โก รอยส์
เพชรอยู่ที่ใดก็เป็นเพชรแล้วก็นี่เป็นเหตุลที่ พบร์เก้น คล็อปป์ ยอมทุ่มเงินซื้อ มาร์โก รอยส์ กลับสู่รังเสือเหลืองอีกที

รอยส์ นั้นเป็นลูกหม้อของ ดอร์ทมุนด์ อย่างแท้จริง เขากำเนิดในเมือง ดอร์ทมุนด์ แล้วก็แน่ๆสมาพันธ์แรกที่เขาได้ร่วมในระดับเยาวชนก็คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั่นเอง

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสายโลหิตของกลุ่มเสือเหลืองโดยตรงแต่การแย่งตำแหน่งตัวจริงและก็ก้าวขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่แบบสุดกำลังก็ไม่ใช่ง่าย เขาไม่เคยได้รับจังหวะมานักในถิ่น ซิกข์นัล เอมองน่า พาร์ค กระทั่งใยปีฤดู 2006-07 ดอร์ทมุนด์ ก็ตกลงใจไม่ต่อสัญญาเข้าและก็ปลดปล่อยให้เขาไปอยู่ อาห์เลนกลุ่มในระดับนอกลีกที่คว้าตัวเขาไปร่วมกลุ่มแบบฟรี


รอยส์ นั้นเริ่มเล่นให้กับกลุ่มชุดสำรองของ อาห์เล่น ก่อนจนถึงในปี 2007-08 เขาจะได้ช่องพิสูจน์ตนเองกับกลุ่มชุดใหญ่ ก่อนที่จะ รอยส์ จะพา อาห์เล่น เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกา 2 ได้เสร็จในช่วงฤดูกาล 2007-08 ด้วยการลงสาม16 นัดหมายรวมทั้งยิงไป 1 ประตู

บนเวทีที่ระดับที่ถือว่าสูงขึ้น รอยส์ ก็ขยับมาตรฐานตนเองให้สูงตาม ในช่วงฤดูกาล 2008-09 รอยส์ เปลี่ยนเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ อาห์เล่น ด้วยการลงในสนามทั้งปวง 26 นัดหมายแล้วก็ยิงไป 4 ประตู แต่ว่าสิ่งที่จำเป็นกว่านั้นเป็นเขาทำให้สังกัดเดิมที่เป็นตัวเต็งตกชั้นสามารถคว้าชั้นที่ 10 ของ ลีก้า 2ได้อย่างเหนือการคาดการณ์ เเละด้วยผลงานอันเด่นนั้นเองก็ถึงเวลาที่เขาจะได้ชิมรสเวทีสูงสุดของประเทศ โน่นเป็น บุนเดสลีก้า และก็เป็น โบรุสเซีย มึนอย่างเช่น กลัดบัค ไปร่วมกลุ่มด้วยคำสัญญา 4 ปีในวันที่ 28ส.ค.ปี 2009
คุณรู้สึกว่าจะกำเนิดอะไรสังกัดครั้งแรกในบุนเดสลีกาของเขา ? มันจะบางทีก็อาจจะมองสวยงามเกินจริง แม้กระนั้น รอยส์ จัดแจงทำประตูแรกของเขาได้ในเกมที่เจอกับ ไมนซ์ 05 แค่นั้นบางครั้งอาจจะยังปกติไป รอยส์ ทำประตูในเกมนั้นด้วยการดึงบอลเลี้ยงลำพังเป็นระยะทางร่วม 50 หลาแล้วก็ซัดประตูให้กับกลุ่มราชสีห์ชายหนุ่มจนกระทั่งทำให้สนามแทบจะแตกในวันนั้น เขารักษาผลงานให้คงเดิมรวมทั้งดียิ่งขึ้นเรื่อยๆจนถึงในที่สุดเเล้วเขาเปลี่ยนเป็น ดาวซัลโวของกลุ่มในช่วงฤดูกาล 2011-12 ด้วยการซัดไปถึง21 ประตูจากการลงไปในสนาม 37 เกม

เมื่อผลงานมันเด่นเห็นกระจ่างขนาดนี้ก็ถึงเวลาเเล้วที่เขาจะได้พิสูจน์ตนเองอีกรอบกับกลุ่มที่ใหญ่ และก็กลุ่มนั้นเป็น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กลุ่มรักเก่าที่ถิ่นฐานบ้านช่องของที่ยอมทุ่มเงินราว 17 ล้านยูโร ซื้อตัวเขามาร่วมทีมในช่วงฤดูกาลม.ค.ปี 2012 และก็ผู้ที่คิดพินิจพิจารณามาอย่างยอดเยี่ยมว่ากองกลางเชิงรุกคนนี้แหละเป็นผู้แสดงที่ใช่สำหรับดอร์ทมุนด์ก็ไม่ใช่คนใดกันแน่เขาเป็น พบร์เก้น คล็อปป์ นั่นเอง

ภายใต้การปลุกเสกอาคมของ คล็อปป์ รอยส์ เริ่มเปลี่ยนเป็นที่รู้จักรวมทั้งเป็นไอค่อนของแวดวงบอลเยอรมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเรื่อยๆ ในช่วงฤดูกาลแรกรอยส์ ประสานงานกับ เลวานดอฟสกี้ แล้วก็ เกิตเซ่ และก็ทั้งยัง 3 คนยิงรวมกันอีกทั้งฤดูไปกว่า 71 ประตู หากแม้ตอนท้ายแล้ว ดอร์ทมุนด์ จะแปลงเป็นทริปเปิ้ลรองแชมป์แต่ว่าสามผสานภายใต้การสั่งของ คล็อปป์ ก็ได้รับเสียงสรรเสริญเยินยอเป็นอย่างมากใหญ่ไม่แพ้กลุ่มที่ได้แชมป์เลยแม้แต่น้อย

การเวลาผ่านไป รอยส์ จะต้องเสียคู่ขาของเขาไปเรื่อยมันเริ่มด้วย เลวานดอฟสกี้ ต่อจากนั้นก็ เกิตเซ่ ในเวลานั้นหลายข้างรู้สึกว่า รอยส์ เองคงต้องตามเพื่อนฝูงๆของเขาไปติดๆ... แต่ว่าก็ไม่ เขายังคงอยู่กับคล็อปป์แล้วก็ดอร์ทมุนด์ถัดไปแม้ว่าจะไม่มีพวกแม้กระนั้นฝีเท้าแล้วก็ฟอร์มการเล่นของเขาก็เกือบจะไม่ตกลงเลย ในที่สุดเขาก็ได้คู้หูใหม่อย่าง โอบาเมยอง ที่เล่นด้วยกันได้อย่างเข้ากัน ที่สำคัญเป็นตั้งแต่แมื่ออยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ในปี2012 เป็นต้นมาเขาไม่เคยทำประตูได้น้อยกว่าจำนวน 2 หลักเลยแม้กระทั้งครั้งเดียว

เหมือนกับกรณี โอบาเมยอง หากแม้ในที่สุดแล้ว คล็อปป์ควรต้องโบกไม้โบกมือลาถิ่นสิกข์นัล เอมองน่า พาร์ค แต่ว่ารอยส์ยังคงเป็นเพชรแท้ที่คล็อปป์เจียระไนจนกระทั่งเจิดแจ่มแจ้งบนโลกลูกหนังวันแล้ววันเล่า


10. โมฮาเหม็ด ซาลาห์
พบร์เก้น คล็อปป์ ยังโชว์ความเป็นผู้ชายตาเหยี่ยวอีกรอบสำหรับเพื่อการคว้าตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาจาก โรม่า ด้วยค่าจ้าง 40 ล้านปอนด์ ซึ่งพวกเราน่าจะจำต้องเห็นด้วยในจุดนี้ว่าตัวรุกชาวอียิปต์เป็นตัวต่อที่หงส์เเดงตามหาอย่างแท้จริง

ขณะที่เล่นกับ โรม่า นั้น ซาลาห์ บางครั้งอาจจะถูกชมเชยว่าเป็นนักฟุตบอลหนเยี่ยมที่สุดในเซเรีย อา อยู่แล้ว แต่กับหงส์แดง นั้นคนละเรื่องภายใต้ระบบการเล่นของ คล็อปป์ นั้น ซาลาห์ ได้ชี้ให้เห็นถึงความชำนาญรอบด้านอีกทั้งการครอบครองบอล,การผลิตจังหวะ,การแอสซิสต์ รวมทั้งการจบสกอร์ที่สุขุมสุดๆจนกระทั่งตอนนี้ ซาลาห์ ทำประตูทำลายสถิติอะไรต่อมิอะไรมาก

"บอลมันเกี่ยวกับวิธีการทำในสิ่งที่ถูกตอนที่สมควร ผมถูกใจความอยากประตูของโม คุณคงจะมองเห็นมันแล้ว" คล็อปป์ กล่าวถึงสิ่งที่ ซาลาห์แสดงออกมาภายใต้การดูแลของเขา ก่อนที่จะจบท้ายด้วยการชื่นชอบความยืดหยุ่นของนักฟุตบอลในเกมรุกซึ่งสามารถสลับเปลี่ยนตำแหน่งกันล่าสกอร์จนกระทั่งทำให้ทุกคนคาดคั้นศักยาเพียงพออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม

"ความยืดหยุ่นของนักฟุตบอลทุกคนที่อยู่รายล้อม คุณไม่สามารถที่จะมีนักเตะผู้เดียวที่ยืดหยุ่นได้ ถ้าหากคุณมองเห็นขั้นตอนการผลัดตำแหน่งของพวกเรา โรกางร์โต้(ฟีร์ไม่โน)จะเข้ามารองโม ตอนที่ซาดิโอ(มาเน)ก็ทำเหมือนกัน มันสำคัญมาก ถ้าเกิดคุณไม่ทำอย่างนั้น คุณจะแปลงเป็นปัญหาเพราะเหตุว่าคุณทำประตูมิได้จากทุกตำแหน่ง" คล็อปป์ ตบท้าย


สามารถติดตามข่าวสารอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่ LIVESCORE บอลสด