LIVESCORE บอลสด : 10 นักเตะที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก 10 นัดแรก
livescore บอลสด : การแข่งขันพรีเมียร์ลีกผ่านไปแล้ว 10 นัด ซึ่งมันทำให้เราพอเห็นแล้วว่าฤดูกาลนี้จะดำเนินไปอย่างไร รวมถึงฟอร์มการเล่นของนักเตะทั้งหมดนี่ และแดเนี่ยล สตอเรย์ ก็จะมาจัดอันดับ 10 นักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดช่วง 10 นัดแรกของลีกสูงสุดแดนผู้ดี
อันดับ 10 : มาร์กอส อลอนโซ่ (เชลซี)
ตอนนี้พวกเราก็เพียงพอจะมองเห็นแล้วว่า เมาริสิโอ ซาร์ปรี่ นับว่าเป็นผู้ที่สมควรแล้วสำหรับเพื่อการเข้ามาปฏิบัติงานกับเชลซีแทน อันโตนิโอ คอนเต้ ซึ่งระบบการเล่นของที่ปรึกษาสายควันรายนี้ก็อาจก่อให้อลอนโซ่เจอกับความลำบากตรากตรำอยู่บ้างจากการเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นมาเป็นฟูลแบ็คในระบบแบ็คโฟร์ แทนที่การเล่นเป็นวิงแบ็คในระบบข้างหลังสาม
สำหรับอลอนโซ่แล้ว เขายังคงรับหน้าที่การดูแลเกมรับทางฝั่งซ้ายเช่นเคย รวมทั้งรอเพิ่มเติมรุกในช่องทางที่สมควร อย่างไรก็ดี มันก็น่าวิตกกังวลเช่นกันว่าแบ็คซ้ายกลุ่มชาติประเทศสเปนบางครั้งอาจจะทำผลงานขัดข้อง เพราะจำเป็นต้องเล่นเกมรับเยอะขึ้นเรื่อยๆในระบบแบ็คโฟร์ รวมทั้งบางครั้งบางคราวเจ้าตัวบางครั้งก็อาจจะถูกแทนที่จากการนำเข้านักฟุตบอลใหม่ของซาร์ปรี่ได้
แต่ว่าท้ายที่สุดสิ่งที่พวกเราตื่นตระหนกก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าอลอนโซ่ยังคงทำผลงานได้ดิบได้ดีหากแม้จำเป็นต้องลงเล่นในตำแหน่งที่จำต้องเล่นเกมรับเพิ่มมากขึ้น ตอนที่เกมรุกเขาก็ยังมีคุณภาพอย่างเดิม มีเพียงอาซาร์กับโมราต้าเพียงแค่นั้นที่ได้โอกาสทดลองทำประตูมากยิ่งกว่าอดีตกาลดาวเตะของฟิออเรนติเตียนน่า ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงทั้งหลายทั้งมวลพวกเราตกชูเครดิตให้เมาริสิโอ ซาร์ปรี่ ที่ยังคงให้อิสระสำหรับเพื่อการเพิ่มเติมเกมรุกแก่แบ็คซ้ายชาวสแปนิชรายนี้ดังเดิม
อันดับ 9 : เซร์จิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้)
เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นที่พวกเราจะมองเห็นอเกวโร่ทำผลงานก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอจากระบบการเล่นเกมรุกของแมนฯ ซิตี้ เนื่องจากคนไม่ใช่น้อยเห็นว่าผู้ใดก็ตามที่มาเล่นเป็นกองหน้าให้เรือใบสีฟ้า ย่อมทำคะแนนได้มากมายรวมทั้งไปถึงเป้าหมายในอาชีพแน่ๆ ดังนั้นแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ ‘เอล กุน’ จะทำผลงานได้ดีเลิศตอนนี้ เขานับว่าเป็นนักฟุตบอลที่ได้โอกาสจบสกอร์สูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก พร้อมด้วยทำแต้มไปแล้ว 6 ลูก หากแม้อัตราความเที่ยงตรงสำหรับเพื่อการยิงเข้ากรอบกับค่าถัวเฉลี่ยสำหรับการเปลี่ยนแปลงช่องทางให้เป็นประตูของเจ้าตัวจะน้อยกว่าแฮร์รี่ เคน ก็ตาม
แม้กระนั้นจำเป็นต้องสารภาพว่า เวลานี้อเกวโร่จะไม่ใช่ตัวจบสกอร์หลักของแมนฯ ซิตี้เนื่องจากว่าหน้าที่นั้นน่าจะเป็นของราฮีม สเตอร์ลิ่ง มากยิ่งกว่า ด้วยวัย 20 ปลายๆทำให้ศูนย์เอาเปรียบฟ้าขาวจะต้องปรับหน้าที่สำหรับเพื่อการเล่น เพื่อตนเองสามารถเล่นในระบบที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วางไว้ได้
กองหน้ากลุ่มชาติอาร์เจนว่ากล่าวน่ารายนี้ถูกถอยลงมายืนต่ำลงยิ่งกว่าเดิม โดยมีบทบาทหลักเป็นการดึงกองหลังออกมาจากตำแหน่ง และก็สร้างพื้นที่ว่าง นอกจากนั้นเจ้าตัวยังจะต้องตกลงใจเอาเองว่าจังหวะไหนน่าจะเล่นอย่างเห็นแก่ตัว หรือจังหวะนั้นควรออกบอลให้เพื่อนฝูง แล้วก็เขาก็จำเป็นต้องทำมันให้ถูกจังหวะและก็เวลา ซึ่งมันเกิดเรื่องที่ยากมากมายทีเดียว ไม่เชื่อคุณก็ทดลองดูกาเบรียล เฆซุส ในช่วงฤดูกาลนี้สิ ศูนย์หน้ากลุ่มชาติบราซิลเล่นไม่ออก รวมทั้งพึ่งทำแต้มในช่วงฤดูกาลนี้ได้เพียงแต่ลูกเดียวแค่นั้น แต่ว่ากับอเกวโร่แล้ว หน้าที่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแม้แต่น้อย
อันดับ 8 : แมตต์ โดเฮอร์ตี้ (วูล์ฟแฮมป์ตัน)
นี่เป็นนักฟุตบอลที่ถูกเห็นว่ามีวิวัฒนาการเยอะที่สุดของลีกผู้ดีตอน 2 ปีที่ล่วงเลยไป โดเฮอร์ตี้เคยถูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปอยู่กับฮิเบอร์เนี่ยนแล้วก็บิวปรี่ ก่อนที่จะกลับมาอยู่กับกองทัพสุนัขป่าในตอนที่กลุ่มตกไปลีก วัน ก่อนที่จะเจ้าตัวจะเริ่มปรับปรุงตนเองแบบก้าวกระโจนในสมัยที่นูโน่เข้ามาจับบังเหียนวูล์ฟส และก็พาทีมเลื่อนชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกได้เสร็จ ซึ่งผลงานของแบ็คขวาจอมบุกรายนี้ก็เยี่ยมกระทั่งแฟนบอลของกลุ่มจำเป็นต้องออกมาแม้กระนั้นเพลงเชียร์ให้กับเขาอย่างยิ่งจริงๆ
วูล์ฟสออกตัวฤดูนี้เจริญทีเดียว ถึงแม้พวกเขาเพิ่งพลาดท่าให้กับไบร์ทตัน แล้วก็วัตฟอร์ด ใน 2 นัดหมายปัจจุบัน แต่ว่าโดเฮอร์ตี้ยังทำผลงานได้เยี่ยมอยู่เป็นประจำสำหรับวูล์ฟหมูแฮมป์ตัน มีนักเตะเพียงผู้เดียวในกลุ่มที่ยิงบอลเข้ากรอบได้มากกว่าแล้วก็ทำประตูได้มากกว่าแบ็คขวาชาวไอร์แลนด์รายนี้ นอกนั้น ยังมีนักเตะเพียงแต่ 2คนเพียงแค่นั้น ที่ประดิษฐ์ช่องทางแนวทางการทำประตูให้กลุ่มได้มากกว่าเขา
ในตอนแรก ทุกคนบางทีก็อาจจะประหลาดใจที่วูล์ฟสอุตสาหะลงทุนเพื่อดึงนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้าและก็มิดฟิลด์มาร่วมทีม ในตอนที่ผู้เล่นเกมรับกับเลือกใช้นักฟุตบอลที่ใช้เวลาจำนวนมากในลีกรองอย่างโดเฮอร์ตี้เป็นตัวหลัก แต่ว่ามาถึงในขณะนี้ แฟนบอลคงเลิกสงสัยแล้วว่าเพราะเหตุใด นูโน่ ผู้จัดการทีมฟุตบอลของกลุ่มถึงตกลงใจอย่างนั้น
อันดับ 7 : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
ไม่มีนักฟุตบอลคนใดกันในกลุ่มหงส์แดงที่ทำประตูตรงกรอบ, ประดิษฐ์จังหวะให้กลุ่มแล้วก็เลี้ยงผ่านคู่แข่งขันได้มากกว่าโมฮาเหม็ด ซาลาห์ อีกแล้วในช่วงฤดูกาลนี้ หากแม้เดี๋ยวนี้ปีกกลุ่มชาติอียิปต์จะยังไกลห่างจากฟอร์มการเล่นในช่วงฤดูกาลที่แล้วของตนพอควร แต่ว่าเดี๋ยวนี้เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่ทำแต้มให้ลิเวอร์พูลได้มากที่สุดเป็นชั้น 2 ถ้านับเฉพาะนักฟุตบอลที่ยังคงลงเล่นให้กับกลุ่มอยู่
คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานนักหรอกถ้าเกิดจะมองซาลาห์สร้างความไม่เหมือนในเกมการเล่นด้วยความมั่นใจและความเชื่อมั่นสูงสุดทำให้นักเตะสามารถเล่นไปตามสัญชาตญาณตนเองได้ บางครั้งผลงานที่สุดยอดนั้นก็ทำให้นักฟุตบอลขาดความละเอียดถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น และก็ปัจจุบันนี้ดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อนก็คงจะจะต้องคิดอะไรให้เพิ่มมากขึ้นว่าจะทำอะไรบ้างที่อยู่ในแต่ละจังหวะ เนื่องจากในขณะนี้ฟอร์มเขายังไม่มีอยู่ในจุดพีค แถมยังถูกบรรดากองหลังในพรีเมียร์ลีกจ้องมองที่จะรุมกลุ้มรุมอยู่เสมอ
แม้ว่าจะยังไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีเยี่ยมที่สุด แม้กระนั้นซาลาห์เองก็ยังสร้างไม่เหมือนกันให้กลุ่มได้ เจ้าตัวเป็นนักฟุตบอล 1 ใน 6 คน ซึ่งสามารถทำแต้มได้มากกว่า 3 ลูก แล้วก็ทำแอสซิสต์ได้มากกว่า 3 ครั้ง (5 ประตู 3 แอสซิสต์) ในพรีเมียร์ลีกฤดูนี้ ด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว ถ้าหากปีกวัย 26 ปี กลับมาท็อปฟอร์มได้เวลาใด บรรดากองหลังในพรีเมียร์ลีกคงจะได้ปวดศรีษะหนักแน่
อันดับ 6 : ไรอัน เฟรเซอร์ (บอร์นมัธ)
ไรอัน เฟรเซอร์ เป็นอีกหนึ่งนักฟุตบอลที่ทำคะแนนได้มากกว่า 3 ลูก และก็ทำแอสซิสต์ได้มากกว่า 3 ครั้ง เขานับว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีมฟุตบอลของบอร์นมัธ เอามาปั้น รวมทั้งรีดความสามารถออกมาได้อย่างดีเยี่ยม กระทั่งช่วยทำให้เดอะ เชอร์รี่ส์ ทำผลงานติดลมบนอยู่ในขณะนี้
สำหรับเฟรเซอร์ ทางนักเตะของเขานั้นมิได้สวยนัก คราวหนึ่งเขาเคยออกมาสารภาพว่ามิได้พึงพอใจสภาพร่างกายตนเองเลย นับจากสามารถเข้าไปเล่นกับกลุ่มชุดแรกของบอร์นมัธได้ จนถึงเอ็ดดี้ ฮาว จำต้องออกมากล่าวว่า เขาจะมิได้ลงเล่นให้ชมรมอีก จวบจนกระทั่งตัวปีกชาวสก็อตว่ากล่าวชจะกลับมาดูแลตนเองให้ดีมากยิ่งกว่านี้
แต่ว่าในขณะนี้เฟรเซอร์เป็นผู้ใหญ่แล้ว รวมทั้งเจ้าตัวก็ได้ลงในสนามอย่างสม่ำเสมอพร้อมด้วยทำผลงานได้อย่างสะดุดตา แล้วก็เริ่มบอกให้เห็นถึงลักษณะท่าทางของความเป็นนักฟุตบอลซึ่งสามารถพิจารณาเกมได้ ซึ่งพวกเราไม่เคยมองเห็นจากตัวเขามาก่อนเลย พวกเรามีความรู้สึกว่าปีกกลุ่มชาติสก็อตแลนด์รายนี้ น่าจะมองเอเดน อาซาร์ เป็นตัวอย่างไว้ เนื่องจากว่าพวกเขามีลักษณะการเล่นที่คล้ายคลึงกันมากมาย รวมทั้งบางครั้งอาจจะมากยิ่งกว่าที่พวกเราคิดไว้ บางครั้งฤดูนี้บางทีอาจจะเป็นฤดูแจ้งกำเนิดอย่างเต็มกำลังของเฟรเซอร์ก็เป็นไปได้
อันดับ 5 : อเล็กซองเดร์ ลากาเซตต์ (อาร์เซนอล)
ลากาเซตต์บางทีก็อาจจะเคยมีขณะที่จะต้องไม่ค่อยสบายใจเรื่องอนาคตตนเองกับอาร์เซนอล หากแม้กลุ่มจะปลดปล่อยอเล็กสิส ซานเชส ออกไปในม.ค. แต่ว่าก็มีการนำเข้านักฟุตบอลอย่างเฮนริค มคิทาร์ยาน แล้วก็ปิเครื่องปรับอากาศ-เอเมริค โอบาเมยองเข้ามา แล้วก็โน่นก็ทำให้ดาวยิงกลุ่มชาติประเทศฝรั่งเศสจำต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก นอกจากนั้น การได้รับบาดเจ็บริเวณเข่าในก.พ.รวมทั้งมี.ค.ก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ในกลุ่มของเขาห่วยลงไปอีก
แต่ว่าในสมัยของอูไน เอเมปรี่ มันต่างไป อดีตกาลหัวหอกของลียงไม่ใช่นักฟุตบอลผู้เดียวที่มองเป็นสุขภายใต้กระบวนการทำกลุ่มของผู้จัดการทีมชาวสแปนิช แต่ว่าลากาเซตต์เป็นผู้ที่แสดงให้พวกเรามีความเห็นว่าเป็นสุขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแจ่มแจ้งที่สุด ในลีกฤดูนี้ เจ้าตัวทำไปแล้ว 4 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ ที่สำคัญเป็นกองหน้ารายนี้เล่นเข้ากันกับนักฟุตบอลค่าตอบแทนแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ชมรมอย่างโอบาเมยองได้อย่างดีเยี่ยม
ในตอนแรก ทุกคนกังวลว่าทั้งคู่คนจะเล่นด้วยกันได้ไหม แต่ว่าเรื่องนี้ก็ตกลงไปอย่างเร็ว เพราะเหตุว่าทั้งคู่คนประสานงานกันได้อย่างพอดี แล้วก็ตลอดระยะเวลา 438 นาทีที่ทั้งคู่คนลงไปในสนามพร้อม ทั้งสองก็ทำแต้มให้กองทัพปืนใหญ่ได้ถึง 8 ลูกอย่างยิ่งจริงๆ
อันดับ 4 : โจ โกเมซ (ลิเวอร์พูล)
การมาของอลิสชอนช่วยกระดับการเล่นเกมรับของหงส์แดงเจริญทีเดียว ยิ่งไปกว่านี้เวอร์ กิล ฟาน ไดจ์ค ก็ยังตงทำผลงานได้ดีเยี่ยม และก็เป็นหัวหน้าในแผงข้างหลังให้กับกลุ่มก้าวหน้าเหมือนปกติ แต่ว่าถ้าเกิดคุณได้มองหงส์แดงลงเล่นทุกเกม คุณจะมีความคิดเห็นว่านักฟุตบอลเกมรับที่ทำผลงานได้ดิบได้ดีอีกคนของลิเวอร์พูลเป็น โจ โกเมซ และก็พวกเราก็คิดว่าเขาเป็นกองหลังที่ทำผลงานเจริญที่สุดให้กับกลุ่มดังจากเมอร์ซีย์ไซด์เวลานี้
โกเมซเริ่มจากการเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของชาร์ลตัน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่แอนฟิลด์เมื่อปี 2015 ก่อนที่จะเขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนักตอนไปรับใช้กลุ่มชาติอังกฤษ U-21กระทั่งจะต้องพักรักษาตัวเป็นปี แต่ ป้อมปราการข้างหลังดาวรุ่งรายนี้อุตสาหะดำเนินงานอย่างมากในตอนพักฟื้น เพื่อหวังจะกลับมาสู่กลุ่มในฐานะนักฟุตบอลที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
รวมทั้งคุณก็คงรู้และเข้าใจดีแล้วว่ากองหลังดาวรุ่งกลุ่มชาติอังกฤษปรับปรุงขึ้นมาแค่ไหน พวกเราชอบได้ยินเสียงยกย่องชื่นชอบของแฟนบอลที่แอนฟิลด์อยู่เป็นประจำในยามที่โกเมซออกวิ่งด้วยความเร็วเพื่อไปเข้าสไลด์ปะทะแนวรุกคู่ปรับ ซึ่งประเด็นนี้ก็ทำให้พวกเราทราบดีว่า ดาวรุ่งวัย 21 ปี ได้เข้าไปอยู่ในใจของเหล่าสเกาเซอร์แล้ว
อันดับ 3 : ดาบิด ซิลบา (แมนฯ ซิตี้)
มีแนวความคิดของแฟนบอลบางกรุ๊ปกล่าวว่า ยิ่งสิลบาแก่เยอะขึ้น เขาก็ยิ่งเก่งขึ้น รวมทั้งมันก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างงั้นจริงๆกองกลางกลุ่มชาติประเทศสเปนยังทำผลงานได้ดีเยี่ยมที่สุด แม้ว่าจะแก่ถึง 32 ปีแล้ว ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้อดีตกาลมิดฟิลด์บาเลนเซียได้รับคำยกย่องเชิดชูมากขึ้นเรื่อยๆ นักเตะโดยมากในตอนนี้ชอบพึ่งความเร็วแล้วก็ความแข็งแกร่งทางร่างกายเพื่อตนเองทำผลงานได้ดิบได้ดี แต่ว่าสิลบานั้นต่างออกไปเนื่องจากสำหรับเจ้าตัวแล้ว การควบคุมบอลสำคัญที่สุด และก็เขาเน้นย้ำใช้ความคิดมากยิ่งกว่าพลัง
สิลบาจะแก่ครบ 33 ปี ในม.ค.นี้ แม้กระนั้นนี่บางทีก็อาจจะเป็นช่วงๆที่เจ้าตัวเล่นเจริญที่สุดในอาชีพ เพราะเหตุว่าเขาไม่ใช่นักฟุตบอลชนิดที่วิ่งไปทั่วอีกทั้งสนาม หรือใช้ความเร็วเพื่อพาบอลผ่านแนวรับ กองกลางสแปนิชรายนี้ใช้เพียงแต่การควบคุมบอลและก็ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สำหรับเพื่อการเล่น เพื่อควบคุมจังหวะของเกม แล้วก็ควบคุมการเล่นเกมรุกของแมนฯ ซิตี้
ถึงแม้บริเวณตัวเขาเต็มไปด้วยนักฟุตบอลที่มีความเร็วและก็มีความถนัดการผ่านคู่ปรับที่สุดยอด แม้กระนั้นสิลบาก็ยังคงทำผลงานได้อย่างเด่นกระทั่งเป็นด้ามจับตามองของแฟนบอล การเล่นของเขาเรียบง่ายแม้กระนั้นเต็มไปด้วยความสามารถอันล้นเหลือ ในช่วงฤดูกาลก่อนกองกลางกลุ่มชาติประเทศสเปนมีปัญหาในเรื่องของครอบครัวจนกระทั่งทำให้เขาพลาดการลงในสนามไปหลายเกม ทำให้ฤดูนี้ สิลบาตั้งเป้าหมายจะทำผลงานให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และก็ถ้าหากเจ้าตัวพาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก พ่วงด้วยนักฟุตบอลเหมาะสมที่สุดที่ปีในช่วงฤดูกาลนี้ มันก็คงเป็นการจบฤดูที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับตัวสิลบา และก็แฟนบอลของเขา
อันดับ 2 : อายเมริค ลาปอร์ต (แมนฯ ซิตี้)
คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผู้คนจำนวนมากจะคิดว่าฟอร์มการเล่นอันโดเด่นของแมนฯ ซิตี้ เกิดขึ้นด้วยเหตุว่าเกมรุกของพวกเขา ทัพเรือใบสีฟ้ามีนักเตะแนวรุกผู้คนจำนวนมากที่กำลังอยู่ในตอนพีค พวกเขามีการเข้าทำในพื้นที่ในที่สุดที่สวยสดงดงามแล้วก็มีคุณภาพ รวมทั้งสามารถทำแต้มได้มากอีกด้วย
แม้กระนั้นเวลานี้ ถ้าจะถามคำถามว่าคนไหนกันเด่นที่สุดในทัพเรือใบสีฟ้า พวกเราก็ขอเลือกลาปอร์ต เพราะว่าเจ้าตัวได้ลงเล่นครบทุกนาทีในลีกฤดูนี้ ถึงแม้ว่าเป๊ป ชอบหมุนวนผู้เล่นอยู่เสมอ โดยยิ่งไปกว่านั้นเซนเตอร์แบ็คที่มีตัวเลือกคุณภาพดีมาก แต่ว่าลาปอร์ตกลับเป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ผู้เดียวที่ได้ลงเล่นครบทุกเกม และก็ทุกนาทีในลีกฤดูกาลนี้ รวมถึงในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
ในช่วงฤดูกาลก่อน แมนฯ ซิตี้ บางครั้งอาจจะเป็นกลุ่มที่กล้าแกร่ง แม้กระนั้นพวกเขาก็ยังมีจุดอ่อนในแนวรับอยู่ สมาชิกของกวาร์ดิโอล่าชอบประสบพบปัญหายามที่พบกับกลุ่มที่มีเล่นเกมสวนกลับได้ดิบได้ดีแล้วก็มีเกมรุกเด็ดขาด แม้กระนั้นปัญหาพวกนี้ก็หมดไปซึ่งจะต้องขอบพระคุณความสุขุมของลาปอร์ต ตั้งแต่แมื่อป้อมข้างหลังชาวประเทศฝรั่งเศสย้ายมาร่วมทีมเมื่อม.ค. เขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกให้เดอะ สิติเตียนสังเวยไปแล้ว 19 เกม และก็จาก 19 เกมที่กองหลังวัย 24 ปีลงในสนามเป็นตัวจริง กลุ่มสามารถคว้าชัยได้ถึง 17 เกม เสมออีก 2 เกม รวมทั้งช่วยทำให้กลุ่มเสียประตูเพียงแค่8 ลูกแค่นั้น
อันดับ 1 : เอเดน อาซาร์ (เชลซี)
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่อาซาร์ชอบทำผลงานก้าวหน้าข้างหลังเชลซีแปลงกุนซือ ดูท่าฟอร์มการเล่นของปีกกลุ่มชาติประเทศเบลเยี่ยมจะสมาคมกับฟอร์มการเล่นของชมรมซึ่งเชลซีชอบเป็นชมรมที่ชอบประสบผลสำเร็จในทีแรกๆของที่ปรึกษาคนใหม่ ก่อนที่จะเบาๆทำผลงานดคอยปลง เหตุเพราะการขาดความสดใหม่ในกลุ่ม ด้วยเหตุดังกล่าวแล้วงานที่ทำอยู่เป็นประจำของซาร์ปรี่เป็นกระบวนการทำให้เชลซีทำผลงานให้ดีเข้าไว้เนื่องจากว่านั้นจะทำให้อาซาร์ส่งผลงานที่ดีตามไปด้วย
ดูอย่างกับว่าซาร์ปรี่เองก็มีแผนสำหรับการต่อกรกับหัวข้อนี้ เขาเพียรพยายามทำให้อาซาร์สุขสบาย รวมทั้งโน่นก็พอเพียงจะช่วยยั้งไม่ให้ดาวเตะกลุ่มชาติประเทศเบลเยี่ยมย้ายไปเรอัล มาดริด ซึ่งนับว่าเป็นชมรมในฝันของเขาได้ สมัยก่อนผู้จัดการทีมของท้องนาโปลีวางให้อาซาร์อยู่ใกล้พื้นที่ในที่สุดโดยไม่ต้องลงมาช่วยเกมรับมากสักเท่าไรนักและก็ยังอุตสาหะให้สมัยก่อนดาวเตะลีลล์หุบเข้ามาเล่นกึ่งกลางเยอะขึ้นด้วย นอกจากนั้นผู้จัดการทีมจอมดูดบุหรี่ยังออกมาเชิดชูยอดลำแข้งวัย 27 ปี รายนี้ว่า สามารถทำคะแนนได้ถึง 35 ลูก ในช่วงฤดูกาลนี้
แล้วก็แผนของซาร์ปรี่ก็กำลังเป็นได้งามอย่างยิ่งจริงๆ อาซาร์ขึ้นเป็นดาวซัลโว่ร่วมของลีกด้วยแนวทางการทำไป 7 ประตู ทั้งๆที่ลงเล่นไปเพียงแค่ 667 นาทีเพียงแค่นั้น นอกเหนือจากนี้เขายังมีค่าเฉลี่ยการได้อ้าเท้ายิงทุกๆ24 นาที รวมทั้งยังมีสถิติการได้จับบอลในกรอบจุดโทษเพิ่มมากขึ้นกว่าฤดูที่แล้วอีกด้วย บางโอกาสอาซาร์บางทีก็อาจจะแปลงเป็นดรีส เมอร์เทนส์ คนใหม่ สำหรับซาร์ปรี่ก็ได้