LIVESCORE บอลสด : 'เอกี้ เมาลาน่า' เด็กเทพอิเหนาที่ไปค้าแข้งในยุโรปด้วยฝีเท้าตัวเองล้วนๆ
livescore บอลสด : นี่คือหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งของอาเซียนที่ไปโลดแล่นอยู่ในเวทียุโรป และเขาก็อาจเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้อินโดนีเซียล้างความผิดหวังในการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งที่แล้วได้ และนักเตะคนดังกล่าวมีชื่อว่า 'เอกี้ เมาลาน่า'
หน้าแข้งส่งออกจากเอเซียอาคเนย์ในแวดวงบอลทั่วทั้งโลกนั้นมีน้อยจนกระทั่งน้อยมากๆซึ่งจำนวนมากนักฟุตบอลอาเซียนพวกนั้นจะถูกจำกัดเพียงแค่ให้เล่นภูมิภาคใกล้เคียง อย่างไรก็ดี ยังมีบางบุคคลที่ฝ่าฟันมรสุมแล้วก็ก้าวไปเล่นในยุโรปได้ และก็คนปัจจุบันที่ทำอย่างนั้นก็คือลำแข้งดาวรุ่งมากมายความสามารถพิเศษนามว่า เอกี้ เมาลาน่า วิกรี
การหานักฟุตบอลส่งออกจากอินโดนีเซียสู่ทวีปยุโรปไม่มีความแตกต่างกับการหาเข็มในห้วงมหาสมุทร ทั้งประเทศนี้ก็ปราศจากความสมาคมกับบอลต่างถิ่นทั้งโลกซักเท่าไหร่นัก แต่ว่าขณะเดียวกันก็มีหนุ่มน้อยชาวอินโดนีเซียคนหนึ่งที่คุณอาจจะมองเห็นเขาฉายแววเด่นทั้งยังในรวมทั้งนอกสนามจนได้ไปค้าลำแข้งในยุโรป
เจ้าหนูคนนั้นเป็น เอกี้ เมาลาน่า วิกรี วัย 18 ปี
จากเมดานสู่โปแลนด์
เมาลาน่า วิกรี กำเนิดและก็เติบโตที่เมืองเมดาน, อินโดนีเซีย ครอบครัวเป็นเชื้อสายนักเตะ บิดาของเขาที่เคยค้าลำแข้งมาก่อน ต้องการให้ลูกชายที่รักเดินตามรอยตีนของเขาด้วย แล้วก็ตัวของเด็กวัยรุ่นคนนี้ก็เห็นด้วยอะไร
เมาลาน่าได้เข้าฝึกหัดกับสถานที่เรียนลูกหนัง ข้ารับใช้บี เพื่อลับคมความสามารถต่างๆรวมทั้งปรับปรุงให้เขาแปลงเป็นนักฟุตบอลที่ครบถ้วนบริบูรณ์ด้วยเหตุนั้นเอง ทำให้เขาไปสะดุดตาแมวมองเข้าอย่างจัง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจากจาร์กาต้า รวมถึงในยุโรปด้วย
ในตอนที่เมาลาน่าเรียนวิชาลูกหนังอยู่นั้น บรรดาสมาพันธ์จากต่างแดนหลายที่ ต่างเห็นถึงความสามารถพิเศษรวมทั้งพึงพอใจในตัวดาวเตะดินแดนอิเหนาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น อาแจ็กซ์,เบนฟิก้า, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, เอสปันญ่อล และก็ แซงต์ เอเตียน คิดว่าเขาเป็นดังเพชนเม็ดสวยในแวดวงลูกหนังที่คอยวันเฉิดฉันในอนาคตแค่นั้น
แต่ เมาลาน่า มิได้ตอบตกลงเสนอจากชมรมยักษ์ใหญ่พวกนั้น แม้กระนั้นเขาเลือกที่จะย้ายไปเล่นกับเลเชีย กอเดนซ์ ในประเทศโปแลนด์ ถึงแม้ว่าการร่วมกลุ่มแบบไม่ต้องทดลองอะไรเลย บางทีอาจจะมองทุกข์ยากลำบากไปซักหน่อย แม้กระนั้นโน่นก็เป็นการตกลงใจที่ถูกคาดหมายไว้แล้ว ความสามารถพิเศษที่เขามีอาจจะส่งผลให้โน่นเป็นทางลัดสู่ยุโรป แต่ว่ามากยิ่งกว่าสิ่งใดสมาคมบางครั้งก็อาจจะจุดโฟกัสเพียงแค่การพัฒนาความถนัดส่วนหนึ่งส่วนใดให้ดีงามเพียงแค่นั้น และก็เขาบางทีก็อาจจะสูญเสียอะไรบางอย่างไปพบกย้ายไปร่วมกลุ่มดังเช่น อาแจ็กซ์
ฉายแววในกอเดนซ์
สำหรับหน้าแข้งทวีปเอเชียทั่วๆไป การย้ายไปในยุโรปก็เรื่องที่ทุกข์ยากลำบากเอาการ แล้วนับประสาอะไรกับชาวเอเชียแถบอาเซียนล่ะ พวกเขาจำต้องจากครอบครัวมาสู่ประเทศใหม่ที่เต็มไปด้วยคนที่ไม่รู้จัก มากมายไปกว่านั้น เรื่องภาษารวมทั้งวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคยทำให้พวกเขาปรับพฤติกรรมในตอนแรกๆได้ยาก อย่างไรก็ดี ถ้าหากจะบอกวว่านี่เป็นส่วนที่ยากก็ดูเหมือนจะผิดจำเป็นต้องซะทีเดียว
ข้อเท็จจริงก็คือ หน้าแข้งดาวรุ่งที่ย้ายไปยุโรปเพื่อจะตั้งใจจริงกับบอล ไม่มีส่วนไหนง่าย แล้วก็ชอบมีเรื่องมีราวท้าออกมาให้จะต้องต่อสู้เสมอ
ในกรณีของ เมาลาน่า วิกรี แม้ว่าจะเอาชนะปัญหาแรกจนได้มาเล่นในยุโรปแต่ว่าปัจจุบันนี้เขาจำต้องพบกัยอุปสรรคครั้งถัดมา มันก็คือเขาจำต้องทำให้ผู้ฝึกสอนในกลุ่มมีความเห็นว่าเขาควรที่จะค้าลำแข้งอยู่ในยุโรปถัดไป โชคดีที่ตัวเขาได้ทำแบบนั้นได้
แม้ว่าจะได่ร่วมกลุ่มเลเชีย กอเดนซ์ ในตอนต้นปีนี้ แม้กระนั้นหน้าแข้งชาวอิเหนาก็เริ่มกับกลุ่มสำรองก่อน โน่นก็เป็นเพราะว่าข้อตกลงอาชีพของเขาพูดว่าจะลงเล่นให้กลุ่มได้เมื่ออายุ 18 ปีเพียงแค่นั้น อย่างไรก็ดี ในกลุ่มชุดสำรอง เมาลาน่าก็ระเบิดฟอร์มได้อย่างดียิ่ง ยิงไป 7 ลูก จาก 6 นัดหมายรวมทั้งได้รับการคัดสรรจาก ‘เดอะ การ์เดี้ยน’ ว่าหนึ่งในดาวรุ่ง 60 ผู้ที่น่าจับตาสูงที่สุดในปี 2017 ด้วย เมื่อเขาได้ขึ้นกลุ่มชุดใหญ่อย่างเป็นทางการก็ได้รับมอบหมายให้ใส่เสื้อเลขลำดับ 10
2-3 ปีที่ล่วงเลยไปเป็นช่วงๆในขณะที่พิเศษสำหรับชายหนุ่มจากเมดานจริงๆเขาได้มีส่วนร่วมกับกลุ่มชาติอินโดนีเซีย ชุดยู-19 และก็คว้าลำดับที่สามในศึกเอเอฟเอฟ ยู-19 ได้ในปี 2017 และก็ตัวเขาเองก็ดูเหมือนจะสนุกสนานกับการประลองในคราวนี้ไม่น้อย ข้างหลังครอบครองรางวัลดาวซัลโวและก็ผู้เล่นดีที่สุดประจำทัวร์นาเมนต์นั้นด้วย โดยเล่นไป 6 นัดหมายซัดไปถึง 8 ประตู
แต่ เขาได้มีชื่อเสียงอย่างมากมายจริงๆในศึกตูลง ทัวร์นาเมนต์ ปีเดียวกันหากว่ากลุ่มชาติอินโดนีเซียจะกลับไปอยู่บ้านไปแบบหาความมีชัยไม่พบเลยแม้กระนั้นตัวของเมาลาน่าก็เป็นผู้เล่นที่ฉายฟอร์มดินแดนที่สุดของกลุ่มและก็ครอบครองรางวัล ‘หน้าแข้งน่าจับตา’ ไปครอบครองด้วย
ไพ่ตายของทัพอิเหนา?
สำหรับกองทัพอิเหนา ถ้วยเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เป็นโทรฟี้ที่พวกเขาใกล้เยอะที่สุด แต่ว่าพวกเขาก็ถือสิทธิ์สถิติที่ไม่มีกลุ่มไหนในโลกต้องการถือครอง โน่นก็เพราะว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่คว้ารองแชมป์เยอะที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้
อินโดนีเซียแพ้ให้กับไทยสำหรับในการชิงชัยครั้งที่แล้ว โดยกลุ่มอิเหนาเอาชนะไปก่อนในครั้งแรก 2-1 อย่างไรก็แล้วแต่ สิโรจน์ ฉัตรทองคำก็เหมาสองประตูให่กลุ่มช้างศึกคว้าชัยไปได้ในนัดหมายสอง โน่นทำให้แฟนบอลทั่วราชอาณาจักรอินโดนีเซียใจแตกสลายอีกที
ในคราวนี้ หลายๆอย่างของอินโดนีเซียบางทีก็อาจจะไม่เหมือนกันกับเดิมด้วยเหตุว่าพวกเขามีผู้เล่นที่ไปค้าลำแข้งอยู่ในยุโรปมาแล้วอย่าง เมาลาน่าวิกรี ที่เคยลงเล่นในชื่อกลุ่มชาติมา 3 นัดหมายแล้ว แม้ว่าจะทำประตูแรกมิได้ก็ตาม
แม้กระนั้นในบอลเอเอฟเอฟ คัพ เป็นอีกช่องทางสำคัญสำหรับอินโดนีเซียที่กำลังจะได้มองเห็นฟอร์มของดาวเตะที่มากสรวงสวรรค์ที่สุดของกลุ่ม แล้วก็บางทีก็อาจจะกระเป๋านผู้ที่รอเคลื่อนกลุ่มให้ก้าวขึ้นไปเถลิงบัลลังก์แชมป์ได้เป็นครั้งแรก...ก็เป็นไปได้