STARS KICK TWO LAND! 8 PLAYERS WHO PLAYED FOR AT LEAST TWO NATIONAL TEAMS.

นักฟุตบอลหลายๆ คน มักจะมีเชื้อชาติเป็นลูกครึ่ง และทำให้พวกเขาสามารถเลือกที่จะลงเล่นให้กับทีมชาติใดก็ได้ที่พวกเขามีสัญชาติ แต่นักเตะบางคนก็ลงเล่นให้กับทีมชาติถึง 2 ทีม เนื่องจากเหตุผลที่ต่างกันไป และนี่ก็คือ 8 นักเตะ ที่ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่มาอย่างน้อย 2 ทีม


ดีเอโก้ คอสต้า (บราซิล 2 เกม, สเปน 24 เกม)

กองหน้าสายบู๊ของแอตฯ มาดริด นับว่าเป็นหนึ่งในยอดดาวยิงของโลกบอลเดี๋ยวนี้ แม้กระนั้นน่าฉงนใจที่เจ้าตัวเลือกเล่นให้กับกลุ่มชาติประเทศสเปน ทั้งๆที่มีเขาเป็นชาวบราสิมันแต่กำเนิด

คอสต้าเคยลงเล่นให้กับกลุ่มชาติบราซิลมาก่อน 2 นัดหมาย ในเกมเตรียมพร้อมกับอิตาลีรวมทั้งรัสเซีย ในมี.ค. 2013 แม้กระนั้นต่อไปเจ้าตัวก็ไม่เคยได้รับโอกาสได้ไปประดับธงเซเลเซาอีกเลย รวมทั้งเมื่อดาวยิงของกองทัพยี่ห้อหมีได้รับชนชาติประเทศสเปนจากการลงเล่นในลา ลีก้า มาอย่างช้านาน ก็ทำให้เขาตกลงใจเลือกลงเล่นให้กับกองทัพวัวกระทิงดุ ก่อนที่จะได้เปิดฉากสนามในมี.ค. 2014 ในเกมกับอิตาลี ufabet ก่อนที่จะก้าวมาเป็นอย่างยิ่งสำคัญของกองทัพวัวกระทิงดุจนถึงเดี๋ยวนี้


ติอาโก้ ม็อตต้า (บราซิล 2 เกม, อิตาลี 30 เกม)

อีกหนึ่งนักฟุตบอลเชื้อสายบราสิมันที่ลงเล่นให้กับชาติอื่น ม็อตต้ากำเนิดที่บราซิล แต่ว่ามาดำรงชีวิตนักเตะอยู่ในประเทศสเปนกับบาร์เซโลน่า ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่อิตาลีกับเจนัว และก็อินเตอร์ มิลาน รวมทั้งที่จูเซ็ปกระเป๋า ภรรยาซซ่า ก็เป็นที่ๆดาวเตะรายนี้ฉายแววความเป็นยอดมิดฟิลด์ออกมา กระทั่งสัมพันธ์บอลอิตาลีอยากตัวนักฟุตบอลรายนี้มาใส่เสื้อสีฟ้าของกองทัพอัซซูปรี่

อย่างไรก็แล้วแต่ ม็อตต้าเคยลงเล่นให้กับกลุ่มชาติบราซิลมาแล้ว 2 นัดหมาย และก็เป็นเกมในศึกคอนติดอยู่เคฟ โกลด์ คัพ ในปี 2003 พื้นที่สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติเห็นด้วยให้เป็นทัวร์ท้องนาเมนท์ที่เป็นทางการอีกด้วย แม้กระนั้น เนื่องจากว่าสมัยก่อนกองกลางของเปแอสเชก็มีเชื้อสายอิตาเลี่ยนจากทางปู่ และไม่ถูกกลุ่มชาติบราซิลเรียกไปติดกลุ่มเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ก็ทำให้สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติอนุญาตให้เขาลงรับใช้กลุ่มชาติอิตาลีได้ ก่อนที่จะได้ลงเล่นให้กลุ่มดินแดนรองเท้าบู๊ตเป็นครั้งแรกในปี 2011 กับเยอรมนี แล้วก็เจ้าตัวก็ได้ลงเล่นให้อิตาลีในทัวร์ท้องนาเมนท์หลักๆอย่างบอลยูโร 2012 ที่กองทัพอัซซูปรี่คว้ารองแชมป์ได้ รวมทั้งการประลองบอลโลก 2014 แล้วก็ยูโร 2016 อีกด้วย


เจอร์เมน โจนส์ (เยอรมนี 3 เกม, สหรัฐอเมริกา 69 เกม)

มิดฟิลด์รายนี้กำเนิดที่เยอรมนี แล้วก็รับใช้กองทัพอินทรีเหล็กมาตั้งแต่ชุด U-20 ก่อนที่จะได้รับการเปิดฉากสนามให้กับกลุ่มชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2008 รวมทั้งได้ลงไปในสนามรับใช้ชาติถิ่นกำเนิดไปทั้งหมด 3 นัดหมาย

แม้กระนั้น กองกลางรายนี้มิได้อยู่ในแนวทางทำทีมของโยอาคิม เลิฟ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้คุยหัวข้อนี้กับที่ปรึกษาจอมแคะจมูกแล้ว แล้วก็โน่นก็ทำให้กองกลางเด็กปั้นของแฟรงค์เฟิร์ตตกลงใจย้ายไปลงเล่นให้กับสหรัฐฯ ซึ่งเจ้าตัวมีชนชาติอยู่ แล้วก็เจ้าตัวก็ได้เปิดฉากสนามให้กับกองทัพพญาอินทรีในต.ค. 2010 กับประเทศโปแลนด์ ต่อจากนั้นโจนส์ก็เปลี่ยนมากระเป๋าฯลูกค้าขาประจำของกลุ่มชาติอเมริกา และก็เขาก็ลงรับใช้ชาติไปถึง 69เกม ก่อนที่จะประกาศห้อยสตั๊ดไปในปี 2018


โรมัน นอยสตัดเตอร์ (เยอรมนี 2 เกม, รัสเซีย 7 เกม)

มิดฟิลด์ตัวรับรายนี้กำเนิดที่ยูเครน ในยุคที่ยังเป็นเลิศในดินแดนของรัสเซีย ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่เยอรมนีพร้อมด้วยครอบครัว พร้อมด้วยฝึกฝนวิชาลูกหนังกับไมนซ์ 05ตั้งแต่ยังเด็ก รวมทั้งด้วยความรู้ความเข้าใจที่ดี ก็ทำให้นอยสตัดเตอร์ถูกเรียกติดกลุ่มชาติเยอรมนีชุด U-20 แล้วก็ U-21 ก่อนที่จะก้าวมาติดกลุ่มชาติชุดใหญ่ในเกมฝึกซ้อมกับเนเธอร์แลนด์เมื่อปี 2012 ข้างหลังทำผลงานก้าวหน้ากับชาลเก้ 04 สังกัดเดิมในช่วงเวลานั้น

แต่ นอยสตัดเตอร์ไม่ใช่ลูกค้าขาประจำของกองทัพอินทรีเหล็ก แม้ว่าจะถูกเรียกติดกลุ่มชาติอีกทีในปี 2015 แล้วก็ในตอนต้นปี 2016 สหพันธรัฐบอลรัสเซียก็มาทาบทามกองกลางรายนี้ให้มาลงเล่นร่วมกันในศึกยูโร 2016 ด้วยเหตุว่านอยสตัดเตอร์ยังไม่เคยลงเล่นในเกมที่เป็นทางการให้กับเยอรมนี รวมทั้งอดีตกาลดาวเตะของชาลเก้ 04 ก็ตอบรับข้อแนะนำนั้น ทำให้เจ้าตัวถูกเรียกตัวไปติดกองทัพหมีขาวชุดชิงชนะเลิศยุโรปในปีเดียวกัน ก่อนที่จะได้เปิดฉากสนามให้กับกลุ่มเป็นครั้งแรกกับสาธารณรัฐเช็กในมิ.ย.ปีเดียวกัน แม้กระนั้นจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ดาวเตะจากเฟเนร์บาห์เช่เพิ่งได้ลงเล่นให้รัสเซียไปเพียงแค่ 7 เกมแค่นั้น และไม่ถูกเรียกตัวไปฝ่าศึกบอลโลกครั้งที่ผ่านมาอีกด้วย


แบ็คขวาตัวเก่งของซีเอสเคเอ มอสวัว ย้ายจากเกรมิโอมาลงเล่นให้กับกลุ่มตั้งแต่ปี2012 และก็ทำผลงานเจริญให้กับยอดกลุ่มจากดินแดนหมีขาวโดยตลอด และก็ผลงานของเจ้าตัวก็ทำให้คาร์ลอส ดุงก้า ที่ปรึกษาของกองทัพเซเลเซาเวลานี้ เรียกเจ้าตัวไปติดกลุ่มชาติในตุลาคม 2014 ก่อนที่จะแบ็คขวารายนี้จะได้ลงเปิดฉากสนามให้กับกองทัพแซมบ้า ในเกมเอาชนะประเทศญี่ปุ่น 4-0

แม้กระนั้นต่อไป แฟร์นันเดซก็มิได้รับการแลเหลียวจากกลุ่มชาติอีกเลย แม้กระนั้นกับรัสเซีย เจ้าตัวได้รับความพอใจเป็นอันมาก และก็เมื่อแบ็คขวาวัย 27 ปี ได้รับชนชาติรัสเซีย เนื่องจากว่าอาศัยตรงนี้มานาน เจ้าตัวก็ถูกเรียกไปติดกลุ่มชาติโดยทันที และก็ในเปิดฉากสนามให้กับกองทัพหมีขาวในตุลาคม 2017 ที่เจอกับประเทศเกาหลีใต้ ส่วนปัจจุบันนี้ เจ้าตัวก็นับว่าเป็นลูกค้าขาประจำของกลุ่มชาติรัสเซีย แล้วก็ได้ลงเล่นในบอลโลกครั้งที่ผ่านมาพร้อมกับกลุ่มอีกด้วย


วิลฟรีด ซาฮา (อังกฤษ 2 เกม, ไอวอรี่ โคสต์ 8 เกม)
ซาฮากำเนิดที่อบิดจัน เมืองหลวงของไอวอรี่ วัวสต์ แต่ว่าเจ้าตัวก็ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนที่จะร่วมอค้างเดมี่ของคริสตัล พาเลซ ในปี 2004 และก็ปีกรายนี้ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าระทึกใจกับกองทัพดิ อีเกิลส์ ในศึกแชมเปี้ยนชิพ จนกระทั่งรอยฮอดจ์สัน ที่ปรึกษาของกองทัพสิงโตขู่คำรามในตอนนั้น จำต้องเรียกเขามาติดกลุ่มชาติในเกมกับประเทศสวีเดน เมื่อพฤศจิกายน 2012 แล้วก็ได้ลงเปิดฉากสนามในเกมดังที่กล่าวมาแล้วในฐานะผู้เล่นสำรอง

แต่ว่าเมื่อซาฮาย้ายไปอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าตัวก็ได้โอกาสลงสู่สนามกระเบียดกระเสียร กระทั่งทำให้ชื่อของเจ้าตัวหายไปจากสารบบของกลุ่มชาติอังกฤษ จนถึงจะต้องย้ายกลับมาอยู่ที่คริสตัล พาเลซอีกที ซึ่งปีกผิวสีรายนี้ก็คืนฟอร์มเก่งได้อีกที แม้กระนั้นก็ยังผิดเรียกไปติดกลุ่มชาติ จนถึงสุดท้าย เขาก็ตกลงใจแปลงมาเล่นให้กับชาติรกรากอย่างไอวอรี่ วัวสต์ ก่อนที่จะได้เปิดฉากสนามให้กับกองทัพช้างดำในตอนต้นปี2017 กับประเทศสวีเดน ซึ่งซาฮาก็นับว่าเป็นตัวหลักของกลุ่มจากรอยดำทวีปในขณะนี้แล้วก็ได้ลงเล่นให้ไอวอรี่ วัวสต์ ไป 8 เกมแล้ว


นาเซอร์ ชาดลี่ (โมร็อคโค 1 เกม, เบลเยี่ยม 51 เกม)

หากแม้ชาดลี่จะกำเนิดที่ประเทศเบลเยี่ยม แม้กระนั้นเจ้าตัวก็มีเชื้อสายโมร็อคโคจากป๋ารวมทั้งเมื่อเจ้าตัวย้ายมาเล่นกับทเวนเต้ได้ไม่นาน กลุ่มจากแอฟริกาก็เรียกตัวเขาไปเล่นให้กลุ่มชาติโดยทันที ถึงแม้ในตอนนั้นปีกรายนี้จะแก่ 21 ปีแค่นั้น อย่างไรก็ดีเกมกับไอร์แลนด์เหนือเมื่อปี 2010 ก็เป็นเกมเดียวที่ชาดลี่ลงเล่นให้กับโมร็อคโค

แต่แล้วเมื่อตอนปีต่อมา ดาวเตะที่อยู่กับโมนาโกในขณะนี้ก็ถูกเรียกตัวไปติดกลุ่มชาติประเทศเบลเยี่ยม ufabet เพราะว่ายังไม่เคยลงเล่นเกมเป็นทางการให้ แล้วก็ชาดลี่ก็ได้ลงเล่นให้กับประเทศเบลเยี่ยมเป็นครั้งแรกในเกมกับประเทศฟินแลนด์ เมื่อกุมภาพันธ์ 2011 ก่อนที่จะแปลงเป็นนักฟุตบอลลูกค้าขาประจำของกลุ่มชาติยามลงเล่นทัวร์นาเมนต์หลักๆตลอดมา และก็เขาก็ยอดเยี่ยมในนักฟุตบอลชุดคว้าชั้น 3 บอลโลกครั้งปัจจุบันของกองทัพอสุรกายแดงที่ยุโรปด้วย


อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ (อาร์เจนตินา 6 เกม, โคลอมเบีย 4 เกม, สเปน 31 เกม)

ตำนานกองหน้าของเรอัล มาดริด รายนี้ เป็นนักฟุตบอลเพียงผู้เดียวบนโลกที่ลงเล่นให้กลุ่มชาติถึง 3 กลุ่ม มันก็คืออาร์เจนว่ากล่าวน่า, โคลอมเบีย และก็ประเทศสเปน โดยที่ดาวยิงรายนี้ลงเล่นให้อาร์เจนว่ากล่าวน่าไป 6 นัดหมาย ในปี 1947 ซึ่งในตอนนั้นเขายังลงเล่นให้กับริเวอร์ เพลท ที่ถิ่นฐานบ้านช่องอยู่ ก่อนที่จะย้ายไปลงเล่นให้กับไม่ลโลนาริออสที่โคลอมเบีย และก็เวลานี้ เจ้าตัวก็โดนจับลงเล่นให้กับกลุ่มชาติโคลอมเบีย(ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นกลุ่มรวมศิลปินของบอลลีกโคลอมเบีย) ไป 4 นัดหมาย

และก็เมื่อย้ายมาเล่นกับเรอัล มาดริด ที่ประเทศสเปน ในปี 1953 ดิ สเตฟาโน่ก็มิได้กลับไปลงเล่นให้กับชาติอะไรก็แล้วแต่อีกเลย กระทั่งเจ้าตัวได้เชื้อชาติประเทศสเปนในปี 1956 เจ้าตัวก็ตกลงใจลงเล่นให้กับกองทัพวัวกระทิงดุ และก็ได้รับช่องทางลงเล่นเป็นครั้งแรกในม.ค. 1957 แล้วก็ตำนานดาวยิงของลา ลีก้า ก็ลงเล่นให้กองทัพลา โรฆา ไปถึง 31 เกม ทำไป 23 ประตู แต่ ดิ สเตฟาโน่ กลับไม่เคยได้ลงเล่นบอลโลกแม้กระทั้งครั้งเดียว เพราะเหตุว่าประเทศสเปนไม่อาจจะผ่านรอบเลือกเฟ้นในปี 1958 ได้ และก็ในปี 1962 เขาก็ดันเจ็บที่กล้าม จนถึงพลาดศึกบอลโลกไปรวมทั้งการเจ็บคราวนั้น ก็ทำให้ดาวยิงเชื้อสายอาร์เจนไตน์ประกาศเลิกเล่นให้กับประเทศสเปนสุดท้าย